CEO ซีพีเอฟ รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2563 แก่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์และผู้จัดการกองทุน ระบุ กำไรสุทธิปี 63 โต 41%

ทีมคณะผู้บริหารพบนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และผู้จัดการกองทุน รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2563 ระบุกำไรสุทธิในปี 2563 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 41% จากปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการบริหารจัดการในกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐานสูงสุด การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย รวมทั้งการใช้ระบบ AI มาเสริมการทำงานเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทุกส่วน รวมถึงกระบวนการขาย ทำให้แม้ในภาวะวิกฤตโรคระบาดทั้งโควิด-19 และโรค ASF บริษัทฯ ยังสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
ด้วยศักยภาพของ CPF ในการพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้น (Genetic Improvement) รวมทั้งการนำเทคโนโลยี AI มาใช้จัดการฟาร์ม ใช้ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ ฟาร์มปลอดภัยจากโรคมากขึ้น ช่วยให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้นกว่าเดิม ต้นทุนการผลิตลดลง แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องแนวโน้มราคาวัตถุดิบอาหารของจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ ค่อนข้างต่ำ และต้นทุนการผลิตโดยรวมของบริษัทฯ ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยจากประสิทธิภาพการผลิตที่ดี
อย่างในธุรกิจหมู บริษัทฯ มีประสิทธิภาพมากในการพัฒนาด้าน Bio-genetic ได้เอง ในการคัดสายพันธุ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พ่อแม่พันธุ์หมูให้ลูกหมูเพิ่มขึ้น 20% ช่วยให้ต้นน้ำมีประสิทธิภาพและต้นทุนลดลง
ในธุรกิจกุ้ง บริษัทฯ ได้ปรับปรุงกระบวนการเลี้ยง การป้องกันโรค และระบบการจัดการน้ำ ช่วยให้ผลประกอบการของธุรกิจกุ้งฟื้นตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ได้ปรับเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายกุ้งในประเทศมากขึ้น ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์กุ้งซีพี แปซิฟิก สด สะอาด คุณภาพดี และอาศัยเครือข่ายการจำหน่ายที่แข็งแกร่งช่วยหนุนตลาดกุ้งในประเทศฟื้นตัวได้
ที่สำคัญ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ให้กับสินค้ามากขึ้น เช่น กุ้งซีพี แปซิฟิก หรือหมูชีวา หมุไขมันดี มีโอเมก้า 3 สูง จากองค์ความรู้ด้านโภชนาการและวิทยาศาสตร์ในการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าโภคภัณฑ์ ยกระดับเป็นสินค้าพรีเมียม ในทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
ปีนี้ CPF มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plant based food ในไทยประมาณเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ และด้วยขีดความสามารถของเครือข่ายการตลาด จะเปิดตัวพร้อมกันใน 40 ประเทศทั่วโลก เดือนมิถุนายน 2564
Cr.PR CPF