ซีพีร้อยเรียงความดี เดินหน้าเต็มสูบ สร้างซั้งบ้านปลา กว่า 530 ชุด ฟื้นฟูทะเลไทย ชูภูมิปัญญาชาวบ้านเพิ่มแหล่งพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่งเพื่อทะเลไทยยั่งยืน

2 พ.ค. 68 จ.ปัตตานี เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ร่วมกับ สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 (ปัตตานี) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานประมงจังหวัดปัตตานี กรมประมง ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปัตตานี เทศบาลตําบลปะนาเระ ชมรมประมงพื้นบ้านตำบลปะนาเระ พร้อมกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี (บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด พื้นที่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) “วางซั้งบ้านปลา” จากภูมิปัญญาปราชญ์ชาวประมง เพื่ออนุรักษ์ ปกป้อง ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่อ่าวไทยตอนล่าง จ.ปัตตานี

โดยมี นายมนตรี หามนตรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 เป็นประธานในพิธีกิจกรรมซั้งบ้านปลา 50 ชุด พร้อมด้วย เรือเอกธัญญะ ฉุยโรจน์ธรรม ประมงจังหวัดปัตตานี นายโชคชัย เมืองสง ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปัตตานีนายสุไลมาน ดาราโอะ ประธานชมรมประมงพื้นบ้านตำบลปะนาเระ นายนนท์ นาคะเสถียร ผู้จัดการทั่วไป สำนักปฏิบัติการความยั่งยืนทางทะเล เครือเจริญโภคภัณฑ์ และชุมชน

นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร ผู้บริหารสูงสุดด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า กิจกรรมวางซั้งบ้านปลาครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “SEACOSYSTEM เพื่อทะเลไทยยั่งยืน” ของเครือซีพี ด้านการอนุรักษ์ ปกป้อง ฟื้นฟู ทรัพยากรทางทะเลให้ยั่งยืน พร้อมควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิต การดำเนินงานภายใต้นโยบายนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเครือซีพีในการสร้างความยั่งยืนให้กับทะเลไทย โดยการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ การส่งเสริมสังคม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อชุมชนชายฝั่งและประเทศชาติในระยะยาว

ควบคู่กับการส่งเสริมอาชีพและยกระดับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนชายฝั่ง เพราะ “ทะเลเป็นทั้งแหล่งอาหารและวิถีชีวิตของคนหลายล้านคน การฟื้นฟูวันนี้คือการลงทุนเพื่ออนาคต ซึ่งชุมชนเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง”

เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ “ซีพี ร้อยเรียงความดี” “SEACOSYSTEM เพื่อทะเลไทยยั่งยืน”  จับมือทุกภาคส่วน ร่วมวาง “ซั้งบ้านปลา” โดยในปีนี้มีการวางแผนขยายการวางซั้ง 13 พื้นที่ ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน  เริ่มวางซั้งในพื้นที่ ปะนาเระเป็นที่แรก จ.ปัตตานี จำนวน 50 ชุดเนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ​ และในอนาคต เร่งเพิ่ม ซั้งบ้านปลา 530 ชุด ทั่วทะเลชายฝั่งใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นจากปราชญ์ชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน

จากภูมิปัญญาชาวบ้าน สู่จุดเริ่มต้นแห่งความยั่งยืน

ซั้งบ้านปลาที่ใช้ในโครงการนี้ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ทางมะพร้าวและไม้ไผ่ เป็นการนำองค์ความรู้ดั้งเดิมจาก ชมรมประมงพื้นบ้านตำบลปะนาเระ มาปรับใช้ในเชิงอนุรักษ์ โดยซั้งทำหน้าที่เป็นแหล่งหลบภัยและอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน ทั้งยังเป็นจุดดึงดูดให้ทรัพยากรกลับคืนสู่ระบบนิเวศชายฝั่งที่เคยเสื่อมโทรม

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ทดลองวางซั้งบ้านปลาในปี 2567 ซึ่งดำเนินการสำรวจระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม พบว่า ความหลากหลายและปริมาณของสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในเดือนที่ 3 และ 6 หลังจากการวางซั้ง”ข้อมูลจากการศึกษาระบุว่า สัตว์น้ำที่พบมากที่สุดคือ ปลาหลังเขียว คิดเป็นสัดส่วนถึง 76.78% ของสัตว์น้ำทั้งหมด รองลงมาคือ ปลาโคก (16.89%), ปลาแมว (3.69%), ปลาแป้นแก้ว (2.46%) และ ปลาดาบลาว (0.18%) ซึ่งสะท้อนประสิทธิภาพของซั้งบ้านปลาในการดึงดูดและเพิ่มจำนวนสัตว์น้ำได้อย่างเป็นรูปธรรม แม้ซั้งบ้านปลาจะมีอายุการใช้งานจำกัด และต้องมีการซ่อมแซมหรือทดแทนอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่การมีส่วนร่วมของชุมชน รวมถึงความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาและทรัพยากรของตนเอง ได้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้การอนุรักษ์เกิดขึ้นได้จริงและยั่งยืน

ชาวบ้านยืนยัน “ทะเลมีชีวิต รายได้ก็คืนมา”

ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่สะท้อนว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของทะเลชายฝั่ง จากการฟื้นตัวของแนวหญ้าทะเล ธนาคารปู และแหล่งปะการัง ไปจนถึงการเพิ่มขึ้นของสัตว์น้ำที่จับได้ ซึ่งช่วยให้ชุมชนมีรายได้ดีขึ้น และสามารถรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวประมงพื้นบ้านไว้ได้

เครือเจริญโภคภัณฑ์ และพันธมิตรภาคี ยืนยันเดินหน้า “ซีพีร้อยเรียงความดี” อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายผลสู่พื้นที่ชายฝั่งอื่น ๆ ทั่วประเทศ โดยมุ่งหวังให้คนในชุมชนเป็นหัวใจของการดูแลทะเลไทยยั่งยืน


#ซีพีร้อยเรียงความดี
#CPGoodDeeds
#Seacosystem
#เพื่อทะเลไทยยั่งยืน
#ซั้งบ้านปลา
#คืนชีวิตสู่ทะเล