เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงแรมเรือรัษฏา จังหวัดตรัง ได้มีการจัด การประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์ทางทะเล ครั้งที่ 8 (The 8th Marine Science Conference) ซึ่งนับเป็นเวทีวิชาการด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี มีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน จากหลากหลายภาคส่วน ทั้งนักวิชาการ นักวิจัย นิสิตนักศึกษา ผู้นำท้องถิ่น อาสาสมัครภาคประชาชน ตลอดจนผู้มีบทบาทเชิงนโยบาย
ในการนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมนำเสนอผลงานวิชาการ ถ่ายทอดองค์ความรู้ ที่สะท้อนบทบาทของภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน พร้อมด้วยบุคคลสำคัญระดับประเทศ รวมทั้งนักวิจัย นักศึกษา และเครือข่ายภาคประชาชนจากทั่วประเทศ ภายในงานมีการนำเสนอผลงานวิชาการรวมกว่า 340 ผลงาน แบ่งเป็นแบบบรรยาย (Oral Presentation) จำนวน 125 ผลงาน และแบบโปสเตอร์ (Poster) กว่า 215 ผลงาน
โดย ดร.ปฐพร เกื้อนุ้ย ผู้จัดการฝ่าย หน่วยงาน ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้นำเสนอผลงานวิจัยในหัวข้อ “ประสิทธิภาพการดึงดูดสัตว์น้ำของซั้งในเขตอนุรักษ์แนวชายฝั่งทะเล จังหวัดปัตตานี” ซึ่งเน้นให้เห็นถึงศักยภาพของ “ซั้งบ้านปลา” ในการเพิ่มความหลากหลายและปริมาณสัตว์น้ำอย่างเป็นรูปธรรม โดยอิงจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่นำมาพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์เชิงนิเวศได้จริง แม้ซั้งจะมีอายุการใช้งานจำกัด แต่การมีส่วนร่วมของชุมชนในกระบวนการดูแล ฟื้นฟู และทดแทนซั้งในแต่ละปี ได้กลายเป็นพลังสำคัญที่ขับเคลื่อนการอนุรักษ์ให้เกิดผลอย่างยั่งยืน สอดรับกับนโยบายของเครือซีพี ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานอย่างครบมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในปีนี้เครือซีพีวางแผนขยายการวางซั้งใน 13 พื้นที่ ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน โดยเริ่มจาก พื้นที่ปะนาเระ จังหวัดปัตตานี จำนวน 50 ชุด และมีเป้าหมายวาง ซั้งบ้านปลาเพิ่มอีก 530 ชุดทั่วประเทศ โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของปราชญ์ชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้สมดุลกับวิถีชุมชน
ด้าน นางสาวทิพย์อุสา จันทกุล อาสาสมัครพิทักษ์ดุหยงจากเกาะลิบง เครือข่ายภาคประชาสังคม คือ ผู้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งโดยให้ข้อมูล สนับสนุนการวิจัยและร่วมจัดทำองค์ความรู้เชิงประจักษ์เพื่อผลักดันให้เกิดการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลอย่างเป็นรูปธรรม การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในเวทีระดับชาติครั้งนี้ ตอกย้ำถึงเจตนารมณ์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ นางสาวสุพรรณี สมรูป ผู้จัดการแผนก หน่วยงานด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังได้ร่วมนำเสนอผลงานในหัวข้อ “ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตทางทะเล” ซึ่งเน้นถึงบทบาทสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพในการคงไว้ซึ่งเสถียรภาพของระบบนิเวศทางทะเล ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มลพิษทางทะเล และแรงกดดันจากการใช้ทรัพยากรที่เกินขีดจำกัด
และในช่วงท้ายมีการเสวนา ในหัวข้อ “เสียงจากทะเล : ทางรอดของหญ้าทะเลและพะยูน”โดยได้รับเกียรติจาก คุณทิพย์อุสา จันทกุล อาสาสมัครพิทักษ์ดุหยงจากเกาะลิบง ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายอนุรักษ์ภาคประชาชน ร่วมแบ่งปันประสบการณ์จริงจากพื้นที่และแนวทางการอนุรักษ์ที่อิงบริบทชุมชน ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตหายาก เช่น พะยูน และ หญ้าทะเล ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นแบบอย่างที่สะท้อนถึงการบูรณาการพลังของภาคประชาชน เข้ากับแนวทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนโยบายสาธารณะ เพื่อนำไปสู่การจัดการทรัพยากรทางทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนชายฝั่งอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และพันธมิตรภาคี ยืนยันเดินหน้า ร่วมร้อยเรียงความดี อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายผลสู่พื้นที่ชายฝั่งอื่น ๆ ทั่วประเทศ โดยมุ่งมั่นให้คนในชุมชนเป็นหัวใจหลักของการดูแลทะเลไทย รวมพลังเพื่ออนาคต การประชุมในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เชิงวิชาการ แต่แสดงให้เห็นถึงความ บูรณาการระหว่างองค์ความรู้ท้องถิ่น วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนโยบายสาธารณะ เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างนวัตกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลของประเทศไทยต่อไป