เครือซีพี ผนึกกำลังสพฐ.น่าน เขต2 เปิดหลักสูตร “การศึกษาท้องถิ่นปลูกความรู้ สู่อนาคตที่ยั่งยืน” มุ่งพัฒนาเยาวชนบนพื้นที่สูงสู่การเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ร่วมกับ สพฐ.น่าน เขต2 เปิดตัวหลักสูตรการศึกษาท้องถิ่น “ปลูกความรู้ สู่อนาคตที่ยั่งยืน” ณ โรงเรียนบ้านสบขุ่น ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน โดยโรงเรียนบ้านสบขุ่นถือเป็นพื้นที่นำร่องแห่งแรกของหลักสูตรนี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเยาวชนในพื้นที่สูงให้มีทักษะอาชีพ และปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ผ่านการเรียนรู้จากชีวิตจริงในชุมชนของตนเอง

นายกิตตินันท์ อินทำ ผู้จัดการแผนก ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า หลักสูตรดังกล่าวจัดทำขึ้นภายใต้โครงการ “ซีพีความดี สิ่งแวดล้อมยั่งยืน – สบขุ่นโมเดลน่าน” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างเครือซีพี สพฐ.น่าน เขต 2 และโรงเรียนบ้านสบขุ่น เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมผ่านการให้ความรู้เรื่องการปลูกพืชมูลค่าสูงที่เหมาะกับพื้นที่ เช่น กาแฟ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่ช่วยลดการพึ่งพาเกษตรเชิงเดี่ยว และสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรในชุมชน โดยเน้นการใช้ไม้พี่เลี้ยงเพื่อช่วยฟื้นฟูพื้นที่ต้นน้ำและเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ

จากองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นในชุมชน เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงนำมาต่อยอดเป็นหลักสูตรกาแฟในโรงเรียน โดยใช้แนวทางการเรียนรู้จากพื้นที่จริง {Area-Based Learning} ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้จากสิ่งที่อยู่รอบตัว หลักสูตรนี้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การปลูก ดูแล เก็บเกี่ยว แปรรูป ไปจนถึงการบริหารจัดการและการตลาด เพื่อให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปต่อยอดเป็นอาชีพหรือธุรกิจในอนาคตได้อย่างแท้จริง

การเรียนการสอนจัดขึ้นสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1–6 โดยมีครูประจำโรงเรียนและวิทยากรจากเครือซีพีร่วมถ่ายทอดความรู้ โดยในวันแรกของการเปิดสอนมี นายกิตตินันท์ อินทำ เป็นวิทยากร พร้อมด้วยครูและนักเรียนกว่า 80 คน เข้าร่วมกิจกรรม โดยเน้นการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและการลงมือปฏิบัติจริงในแปลงกาแฟของโรงเรียน เช่น การดูแลต้นกาแฟ การใส่ปุ๋ย และการตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้นักเรียนเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

หลักสูตรนี้มีระยะเวลาเรียนรวมทั้งสิ้น 80 ชั่วโมง โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างสมดุล เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะภาคปฏิบัติที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ลงมือทำจริงในพื้นที่ของตนเอง

นางปวีณา ไชยวงค์ ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านสบขุ่น กล่าวว่า หลักสูตรดังกล่าวเป็นการส่งเสริมองค์ความรู้และทักษะที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน ช่วยให้นักเรียนเข้าใจวิถีชีวิตในท้องถิ่น เห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ และเรียนรู้การใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดมุมมองใหม่ให้นักเรียนรู้จัก “กาแฟ” ในฐานะพืชเศรษฐกิจของชุมชน ที่สามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้ในอนาคต ควบคู่กับการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

ด้าน ด.ญ.ม่านมัสรินทร์ จันทร์ธิมา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่โรงเรียนเปิดสอนหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องกาแฟ เพราะครอบครัวของตนประกอบอาชีพปลูกกาแฟอยู่แล้ว ซึ่งเนื้อหาในหลักสูตรไม่เพียงให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะปลูก แต่ยังสอนเรื่องการแปรรูปผลิตภัณฑ์ และการตลาด ทำให้ตนมีความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดและช่วยเหลือครอบครัวได้ในอนาคต”

หลักสูตรนี้ยังสอดคล้องกับแนวคิด Creating Shared Value (CSV) ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญและใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นการสร้างประโยชน์ร่วมกันทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงของชุมชน ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้จากสิ่งที่อยู่รอบตัว และนำไปใช้พัฒนาตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังมีแผนขยายหลักสูตรนี้ไปยังโรงเรียนอื่นในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีบริบทคล้ายกัน เพื่อสร้างเครือข่ายการเรียนรู้จากรากฐานของชุมชน และเปิดโอกาสให้เยาวชนบนพื้นที่สูงได้มีอาชีพที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตและทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างมั่นคงและยั่งยืน