ซีพีร้อยเรียงความดี ผนึกพลังภาคี ฟื้นฟูอนุรักษ์ทะเลใต้ จังหวัดตรัง

บางครั้งเสียงที่เบาที่สุด ก็เป็นเสียงที่สะเทือนหัวใจที่สุด เสียงของท้องทะเลที่กำลังเงียบเหงา เสียงของพะยูนที่ใกล้จะสูญพันธุ์ เสียงเหล่านี้คือแรงบันดาลใจให้เกิดโครงการ “เสียงจากทะเล Sea & Sound” ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และภาคีเครือข่ายอีกกว่า 10 องค์กร ร่วมกันจับมือเพื่อส่งเสียงแห่งความหวังกลับคืนสู่ท้องทะเลใต้

จุดเริ่มต้นของความร่วมมือนี้ ไม่ใช่แค่การอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่มันคือการ “ร้อยเรียงความดี” จากทุกภาคส่วน ภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนท้องถิ่น เยาวชน และคนที่รักทะเลทั่วประเทศ ให้รวมเป็นคลื่นลูกใหม่ ที่พร้อมพัดพาเมืองตรังกลับมาเป็น “เมืองหลวงแห่งพะยูน” อีกครั้ง

นำทีมโดย นายอานนท์ ขำแก้ว จากสำนักปฏิบัติการความยั่งยืนทางทะเล เครือซีพี ร่วมกับ ดร.สวิตตา นาคะนคร ที่ปรึกษาจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พร้อมพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, กองทัพเรือภาคที่ 3, ม.เทคโนโลยีราชมงคลตรัง, กลุ่มพิทักษ์ดุหยง, YEC, สมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย และอีกหลายองค์กรที่ร่วมใจ

ซึ่งงานนี้ ไม่ใช่แค่คอนเสิร์ตริมทะเลธรรมดาแต่ Sea & Sound คือการผสมผสาน “เสียงดนตรี” เข้ากับ “เสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง” มีกิจกรรมที่ลงลึกทั้งในแง่ความรู้และการมีส่วนร่วม

โดยเครือซีพี ได้จัดเวิร์กชอปขัดไข่ปู & นวัตกรรมสัตว์น้ำ เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น,กิจกรรมซีพีอาสาร้อยเรียงความดี เก็บขยะ ฟื้นฟูชายหาด นอกจากนี้ ยังมีโปรเจกต์ Music Mockumentary ถ่ายทอดเรื่องราวของพะยูนผ่านบทเพลงที่เข้าถึงใจ เวทีคอนเสิร์ตที่เปิดพื้นที่ให้ทั้งศิลปินท้องถิ่นและศิลปินดังระดับประเทศ จัดนิทรรศการศิลปะจากขยะทะเล ที่เปลี่ยนสิ่งไร้ค่าให้กลายเป็นแรงกระตุกความคิด แต่ละกิจกรรมอาจจบลงในวันนั้น

แต่ความรู้สึกที่ส่งต่อ และการลงมือทำที่เริ่มต้นจาก “เสียงเล็ก ๆ” นี้ จะยังคงเดินหน้าต่อไป เพื่อทะเลใต้ เพื่อพะยูน และเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของเราทุกคน

เครือซีพี ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ทะเลไทย ด้วยนโยบายระยะยาวที่ไม่หยุดเพียงกิจกรรมระยะสั้น
แต่เดินหน้าอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม เราจึงสานต่อเจตนารมณ์ ขับเคลื่อนโครงการอนุรักษ์ทะเลตลอดทั้งปีอย่างต่อเนื่อง

เพราะพลังจากทุกภาคส่วนในวันนี้ คือจุดเริ่มต้นของ “คลื่นลูกใหม่” ที่จะหล่อเลี้ยงทะเลใต้ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และปลุกเมืองตรังให้กลับมายืนหยัดอย่างสง่างาม