‘จิ้มก้องและกำไร’ โดย ดร.สารสิน วีระผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หนังสือที่บันทึกพัฒนาการความสัมพันธ์การค้าระหว่างไทยและจีนจากอดีตสู่สมัยใหม่ ผลงานอันน่ายกย่องที่สุดเล่มหนึ่งในโลกของนักวิชาการไทยที่ได้รับการตีพิมพ์ในโลกตะวันตก

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ดร.สารสิน วีระผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมเสวนา Book Talk : จิ้มก้องและกำไร การค้าไทย-จีน ในฐานะเจ้าของผลงานหนังสือฯ ร่วมกับ ผศ.ดร.กรพนัช ตั้งเขื่อนขันธ์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์จีนสมัยใหม่ ดำเนินรายการโดย คุณสมคิด พุทธศรี ในงาน Knowledge Bookfair 2024 เทศกาล ‘อ่านเต็มอิ่ม’ จัดโดยสำนักพิมพ์มติชน และเครือข่ายพันธมิตร ซึ่งได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ตลอดจนนักอ่านหนังสือ โดยมี คุณปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมรับฟังด้วย ณ มิวเซียมสยาม ท่าเตียน กรุงเทพฯ

ดร.สารสิน เล่าถึงที่มาของหนังสือทรงคุณค่าเล่มนี้ ที่วงวิชาการเรื่องจีนระดับโลกต่างยกนิ้วให้ว่า ต้องขอขอบคุณที่ให้โอกาสมาปรากฏตัว ถือเป็นเซอร์ไพรส์ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับตน เพราะเป็นการครบรอบ 50 ปีที่ตนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา พร้อมกับต้นฉบับของหนังสือเล่มดังกล่าว  มีที่มาจากการทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา หลังจบปริญญาเอก วิทยานิพนธ์หัวข้อดังกล่าว ก็กลายมาเป็นหนังสือ “จิ้มก้องและกำไร” เวอร์ชันภาษาอังกฤษ ใน ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520)  เนื้อหาภายใน ไม่ใช่เพียงสะท้อนให้เห็นประวัติศาสตร์การค้าช่วงเวลาในอดีต แต่สามารถเชื่อมโยงถึงเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ทางการฑูตในปัจจุบันได้เช่นกัน

“ผมคิดว่า 50 ปีเป็นช่วงเวลาจุดที่มีความสำคัญในชีวิตของคน แม้ตอนนี้สูงวัยแล้ว อายุ 78 ปี แต่ยังไม่ละเว้นจากการค้นคว้า ไม่ใช่ว่าอวดอ้าง สิ่งที่ค้นพบจากการเป็นนักวิชาการ นักการทูต และการทำงานภาคเอกชนมา 28 ปี หลังเออร์ลีรีไทร์เมื่ออายุ 50 แล้วมาอยู่กับเครือเจริญโภคภัณฑ์ สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ผมยังเดินหน้าต่อไป เนื่องจากพื้นฐานที่ได้จากการศึกษา จะเรียน จะอ่าน จะเรียกอะไรก็ตาม แต่ผมไม่หยุดในการใช้สิ่งนี้ คือ มันสมองเติมความหมายให้ชีวิต ไม่ใช่เพียงปากท้อง ความอิ่มทางสมองเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะคนสูงอายุ” ดร. สารสินกล่าว

ด้าน ผศ.ดร.กรพนัช เสริมว่า “จิ้มก้องและกำไร” มีความสำคัญต่อการศึกษาความสัมพันธ์ไทย-จีนอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นผลงานคลาสสิกที่สุดเล่มหนึ่งในโลกของนักวิชาการไทยที่พิมพ์ในโลกตะวันตก เพราะใช้หลักฐานหลากหลาย การอ้างอิงมีทั้งภาษาไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส ใส่รายละเอียดสำคัญให้เห็นถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน ไม่ใช่แค่การค้า แต่รวมถึงการทูตด้วย นอกจากนี้ยังมีการรวบรวมหลักฐานชั้นต้นที่กระจัดกระจายมารวมไว้ด้วยกัน โดยถือเป็นเล่มแรก ได้เริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกเป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษ ปี 1977 โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จากนั้นปี 2548 ก็มีเวอร์ชันภาษาไทย ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบความสัมพันธ์ 30 ปี ไทย-จีน

นอกจากนี้ จีนก็มีหน่วยงานที่แปลหนังสือของอาจารย์สารสิน เป็นการแปลเก็บความเป็นภาษาจีน ใช้อ้างอิงภายในเพื่อการศึกษา จะมีเล่มแปลจริงที่เผยแพร่ต่อสาธารณะก็เมื่อปี 2021 แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของหนังสือเล่มนี้ได้เป็นอย่างดี” อ.กรพนัช กล่าว

ทั้งนี้ ดร.สารสิน วีระผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นอีกหนึ่งผู้บริหารเครือซีพี ที่มีความรู้ ประสบการณ์ที่คนซีพีรุ่นหลังได้เรียนรู้ ศึกษา ท่านจบการศึกษาขั้นต้นจากโรงเรียนอัสสัมชัญ แล้วเดินทางไปต่อระดับมัธยมที่ฮ่องกงระยะหนึ่งก่อนจะศึกษาในระดับไฮสคูลที่แคลิฟอร์เนีย จบปริญญาตรี ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ American University ในปี 2511 ท่านเข้ารับราชการเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่นานก็ได้รับทุนจาก Harvard University ไปเรียนระดับปริญญาโทและเอก เรียนวิชาHistory and East Asia language และทำวิทยานิพนธ์เรื่องความสัมพันธ์การค้าระหว่างไทย-จีน โดยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารของ Harvard ด้วย เมื่อกลับมาเป็นอาจารย์อีกครั้งหนึ่งก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่รอบรู้เรื่องประวัติศาสตร์การค้าไทย-จีนดีที่สุด