มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท จัดประชุมพิจารณาแผนงานและงบประมาณปี 2566 สานต่อ 10 โครงการ มุ่งตอบแทนคุณแผ่นดิน ร่วมขับเคลื่อนสังคมไทย

วันที่ 26 มิถุนายน 2566 มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท จัดประชุมพิจารณาอนุมัติแผนงานและงบประมาณปีบริหาร 2566 โดยมีคณะกรรมการเข้าร่วม นำโดย พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย คุณสุภกิต เจียรวนนท์ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ มูลนิธิฯ และคณะกรรมการ อาทิ ดร.อาชว์ เตาลานนท์, คุณอดิเรก ศรีประทักษ์, คุณณรงค์ เจียรวนนท์ รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ และกรรมการมูลนิธิฯ ผู้บริหารระดับสูงของเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำนวนรวม 27 ท่าน

โดยการประชุมดังกล่าวฯ มีวาระที่สำคัญ คือ การพิจารณาอนุมัติแผนงานและงบประมาณปีบริหาร 2566 จำนวน 10 โครงการ ในการขับเคลื่อนงานเพื่อส่งมอบคุณค่าสู่สังคม ตามรอยใต้เบื้องพระยุคลบาท เพื่อร่วมแบ่งเบาพระราชภารกิจด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้คนในชนบท โดยที่ผ่านมา มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ได้ดำเนินงานมาแล้วกว่า 4 ทศวรรษ (ตั้งแต่ปี 2530 – ปัจจุบัน) ในการขับเคลื่อนส่งมอบคุณค่าสู่สังคม ภายใต้เป้าหมาย 4 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาด้านเด็กและเยาวชน อาทิ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน โครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ โครงการครอบครัวอุปการะในชุมชนวัฒนธรรมฯ ด้านพัฒนาชุมชนและเกษตรกร อาทิ โครงการเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ จ.บุรีรัมย์ โครงการพัฒนาอาชีพตำบลปากรอ ตามดำริ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จ.สงขลา โครงการตามพระราชประสงค์หมู่บ้านสหกรณ์ และโครงการห้วยองคต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.กาญจนบุรี ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต ได้แก่ โครงการกตัญญูผู้สูงวัย และโครงการพัฒนาอาชีพด้านการบริบาล และด้านปกป้องและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ได้แก่ โครงการอมก๋อยโมเดล จ.เชียงใหม่ รวมถึงสนับสนุนโครงการตามแนวพระราชดำริ รวม 10 โครงการ สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยที่ผ่านมา มูลนิธิฯ สามารถส่งมอบคุณค่าสู่สังคมทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้แก่ เด็กและเยาวชน จำนวน 190,456 คน สามารถเข้าถึงโรงเรียนห่างไกล 992 โรงเรียน เกษตรกรและชุมชน 8,266 คน อีกทั้งยังมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียว 10,000 ไร่

คุณจอมกิตติ ศิริกุล กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เปิดเผยว่า ในปีนื้ มูลนิธิฯ มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาความยั่งยืนที่สำคัญของประเทศไทย และสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ตามแนวศาสตร์พระราชา ครอบคลุม “ภูผา ผืนนา สู่มหานที” นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังคงเดินหน้าส่งมอบคุณค่าสู่สังคมไทยภายใต้โครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง และในปี 2566 มูลนิธิฯ ได้ขยายโครงการเพิ่มในพื้นที่โครงการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.แม่ฮ่องสอน ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนครอบคลุมทุกมิติเพื่อส่งเสริมการศึกษาโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพปลูกกาแฟตลอดห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนั้นขยายพื้นที่สนับสนุนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ อ.แม่ระมาด และ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ซึ่งมีประชากรกว่า 10,000 คน มีฐานะยากจนและอยู่ในพื้นที่สูงทุรกันดารให้ได้เข้าถึงโภชนาการที่ดีและเหมาะสม โดยตลอดระยะเวลาของการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาของมูลนิธิฯ ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามรอยใต้เบื้องพระยุคลบาท ส่งต่อโอกาสและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชนบทห่างไกลในทุกมิติ โดยหลังจากนี้ ยังคงมุ่งมั่นสานต่อโครงการต่าง ๆ เพื่อร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

โดยการประชุมในครั้งนี้ กรรมการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติแผนและงบประมาณประจำปี 2566 จำนวน 10 โครงการ ในการขับเคลื่อนงานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในชนบทในมิติต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสามารถส่งมอบคุณค่าสู่สังคม ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ควบคู่กันอย่างยั่งยืน