“คุณศุภชัย เจียรวนนท์” ซีอีโอเครือซีพี บรรยายพิเศษ “การขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ New S-Curve ให้สำเร็จอย่างยั่งยืน” ในงานสัมมนาประจำปีผู้บริหารมิตรผลนำเสนอวิสัยทัศน์ปรับทัพธุรกิจสู่ New S-Curve ขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี พร้อมแนวคิดพัฒนาคน

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2564 คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์  ได้รับเชิญบรรยายพิเศษผ่านระบบออนไลน์ในหัวข้อ “การขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ New S-Curve ให้สำเร็จอย่างยั่งยืน” ในงานสัมมนาผู้บริหารกลุ่มมิตรผล ประจำปี 2564  โดยมีคุณอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มมิตรผลพร้อมคณะผู้บริหารเข้าร่วมรับฟัง

คุณศุภชัย  ได้บรรยายสะท้อนให้เห็นภาพของธุรกิจโลก หลังสถานการณ์โควิด 19  โดยกล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่จะนำไปสู่ธุรกิจ New S-Curve ได้ โดยได้นำเสนอให้เห็นถึงแผนการขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาและจีน  ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจของโลกในปัจจุบัน และมีบทบาทสำคัญต่อการค้าขาย และการลงทุนทั่วโลกในยุค 4.0

ทั้งนี้ การที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปสู่ New SCurve  คุณศุภชัยมองว่า สามารถทำได้ด้วย 3 วิธี คือ 1.Transform To Tech Driven ปรับให้เป็นองค์กรแห่งเทคโนโลยี และต้องเคลื่อนตัวให้เร็วเพื่อสร้าง S-Curve และถ้าเป็นอุตสาหกรรมก็ต้องเป็น Smart Industry 2,Remodel เริ่มลงทุนสร้างโมเดลธุรกิจใหม่บนฐานธุรกิจเดิม   และ 3.Spin Off & Investment สร้างธุรกิจใหม่ แยกออกจากธุรกิจเดิม และลงทุนในสิ่งที่เชื่อว่าเป็นอนาคต เช่น True Money ที่แยกออกจาก True เพื่อให้คิดและแข่งขันในระบบดิจิทัลเพย์เมนท์ได้ด้วยตัวเอง

คุณศุภชัย กล่าวอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและมีความยั่งยืน องค์กรธุรกิจต้องยึดหลักความโปร่งใสของข้อมูล สร้างเป้าหมายใหม่ เพิ่มตัวชี้วัดใหม่ ศึกษาข้อมูลธุรกิจให้เป็นปัจจุบัน (Real time) เสมอ  และศึกษากลไกตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านลูกค้า การขับเคลื่อนตลาด มองทิศทางความเป็นไปได้แล้วจึงขยายผล สร้างผู้นำโดยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ทำเรื่องใหม่ ๆ ให้องค์กร ในขณะเดียวกันต้องให้อำนาจ (Empowerment) โดยสร้างเวทีให้แก่คนรุ่นใหม่ และพัฒนาคนกับเทคโนโลยีให้มีทักษะสอดคล้องและขับเคลื่อนไปด้วยกัน

ซีอีโอเครือซีพี  กล่าวต่ออีกว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยควรเร่งปรับตัวเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยได้นำเสนอ  4 ยุทธศาสตร์ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศดังนี้  1. พัฒนาพื้นที่ EEC ด้วยการเร่งลงทุนและสร้างโอกาสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับเศรษฐกิจใหม่ ๆ   2.ปฏิรูปการศึกษาเพื่อผลิตบุคลากรคุณภาพมาช่วยสร้างนวัตกรรม สร้างแรงงานที่มีทักษะสอดรับเศรษฐกิจใหม่ 3.ปฏิรูปการเกษตรจากรูปแบบเดิมสู่การทำเกษตรสมัยใหม่ 4.0 4.มีศูนย์กลางนวัตกรรมในภูมิภาค ให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพในประเทศ ผลักดันกฏหมายที่เปิดรับสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีรุ่นใหม่มากขึ้น