สำนักทรัพยากรบุคคลเครือซีพีชวนเพื่อนพนักงานศึกษาทำความเข้าใจพรบ.ข้อมูลส่วนบุคคล ก่อนมีผลใช้ 27พ.ค. นี้ เพื่อยินยอมให้บริษัทใช้ข้อมูลดูแลผลประโยชน์พนักงาน

ตามที่ พรบ.ข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 สำนักทรัพยากรบุคคล เครือซีพีส่งเอกสารยินยอมให้เก็บรวบรวมใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ไปให้พนักงานในสังกัดเครือเจริญโภคภัณฑ์ทุกคนเพื่อลงนามในเอกสาร ทั้งนี้ เพื่อผลประโยชน์ของเพื่อนพนักงาน ขอให้เพื่อนพนักงานศึกษาทำความเข้าใจสาระสำคัญก่อนลงนามยินยอมให้บริษัทรวบรวมข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ในการดูแลสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ โดยพนง.สังกัดเครือฯสามารถเข้าไปดูและทำตามคำแนะนำผ่าน CPG Connect ได้ตั้งแต่วันนี้ – 25 พ.ค. 2563

คุณพลชนพ อุปถัมภ์ รองกรรมการผู้จัดการ สำนักทรัพยากรบุคคลเครือฯ เปิดเผยกับ we are cp ว่า พรบ.ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นเรื่องใหม่แต่มีความสำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับพนักงานทุกคนของเครือฯ รวมทั้งBUต่างๆ โดย HR เครือฯและBU ต่างๆ กำลังสื่อสารและเชิญชวนให้พนักงานศึกษา ทำความเข้าใจก่อนที่จะยินยอมให้บริษัทนำข้อมูลไปใช้เพื่อดูแลเกี่ยวกับ สิทธิประโยชน์ต่างๆ

“พรบ. เกิดขึ้นมาเพื่อคุ้มครองไม่ให้เกิดการละเมิด นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นสิ่งที่องค์กรต้องทำคือ แจ้งให้พนักงานรับทราบว่า องค์กรจะขออนุญาตเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้าง และนำไปใช้ในวัตถุประสงค์อะไร ซึ่งเครือฯ จะขอความยินยอมจากพนักงานนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ดูแลพนักงาน ในขณะที่พนักงานยังมีสถานะเป็นพนักงานขององค์กร”

คุณพลชนพ กล่าวอีกว่า เครือฯ มีวัตถุประสงค์ในการนำข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานมาใช้เพื่อความมั่นใจว่าสามารถดูแลพนักงานทั้งหมดได้ครบถ้วน ซึ่งตัวอย่างการเก็บข้อมูล อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เพื่อเชื่อมโยงกับการเบิกจ่าย ประกันของพนักงาน หรือข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา เพื่อการเตรียมการดูแลพนักงานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม

“การตัดสินใจให้ข้อมูลส่วนบุคคลมี 2 ทางเลือก คือ ยินยอมให้เครือฯ นำข้อมูลไปใช้ดูแลพนักงานได้ หรือ ไม่ยินยอม กรณีที่ไม่ยินยอม บริษัทจะแจ้งให้พนักงานทราบว่า อาจไม่ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ กรณีที่เครือฯ มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับพนักงาน ตัวอย่างเช่นกรณี 1-2 ปีที่ผ่านมา มีกิจกรรมแจกอั่งเปาให้พนักงานในเครือฯ ช่วงตรุษจีน เครือฯ ต้องขอข้อมูลชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เพื่อนำเข้าระบบการแจก หากพนักงานไม่ยินยอมให้ข้อมูลก็จะไม่สามารถดำเนินการได้ ทำให้พนักงานไม่ได้รับโอกาสในกิจกรรมนี้ เป็นต้น”คุณพลชนพ กล่าวอีกว่า พรบ.ข้อมูลส่วนบุคคล จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 เครือฯและกลุ่มธุรกิจต่างๆ จึงขอความร่วมมือให้พนักงานทุกคนศึกษาทำความเข้าใจ และขอความยินยอมจากพนักงานในการเก็บรวบรวมข้อมูลของพนักงาน ตามพรบ.ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งสำนักทรัพยากรบุคคลของแต่ละกลุ่มธุรกิจ ได้แจ้งให้พนักงานในสังกัด ศึกษาข้อมูลของ พรบ.ข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) พร้อมทั้งเริ่มรวบรวมข้อมูลของพนักงาน ซึ่งแต่ละกลุ่มธุรกิจอาจมีการเก็บข้อมูลแตกต่างกันไปตามบริบทของธุรกิจ

ทั้งนี้ เครือฯ ได้เตรียมการ ทั้งเรื่องการสร้างการรับรู้แก่พนักงาน และชี้แจงกระบวนการทั้งหมด เพื่อให้พนักงานทราบว่า มีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานในขั้นตอนใดบ้าง โดย ขอความร่วมมือพนักงานทุกคน อ่านประกาศ (Notice) เพื่อจะได้ทราบว่าข้อมูลของพนักงานจะถูกนะไปใช้ในวัตถุประสงค์อะไรบ้าง พร้อมทั้งลงนามและส่งคำยินยอม (Consent) มายังสำนักทรัพยากรบุคคล เพื่อเก็บรวบรวมต่อไป

พนักงาน สามารถศึกษา ทำความเข้าใจและส่งหนังสือยินยอมได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 25 พ.ค. 2563 โดยสามารถเข้ามาอ่านประกาศพรบ.ข้อมูลส่วนบุคคลผ่าน CPG Connect

พรบ. ข้อมูลส่วนบุคคล เรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
คุณพลชนพ ยังได้กล่าวอีกว่า การที่เราดำเนินชีวิตในรูปแบบดิจิทัลมีมากขึ้น ความสำคัญของพรบ.ข้อมูลส่วนบุคคลก็ยิ่งมีความสำคัญและพนักงานต้องใส่ใจ เพราะมีแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ จะต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ตัวอย่างเช่น การใช้ Vroom ข้อมูลเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เพื่อปรับปรุงให้ประสบการณ์การใช้ Vroom ดีขึ้น หรือ การเข้าใช้สื่อโซเชียลอย่าง Facebook ที่เรายินยอมให้เจ้าของแพลตฟอร์มนำข้อมูลของเราไปใช้วิเคราะห์หรือแชร์เพื่อทำการตลาดต่างๆ ข้อมูลส่วนบุคคลก็จะมีการกระจายออกไปแล้ว

หรือหากมองในมุมของพนักงานที่ทำงานอยู่ฝ่ายขายและการตลาด ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า ก็ต้องทำแบบเดียวกัน ทีมงานขายหรือตลาดต้องให้ลูกค้ายินยอมในการเก็บและใช้ข้อมูล โดยต้องให้ความชัดเจนว่าข้อมูลของลูกค้าหรือคู่ค้าจะถูกนำไปใช้อะไร ในทางกลับกันผู้ถูกเก็บข้อมูลก็ต้องการจะทราบว่าข้อมูลที่เก็บไว้จะนำไปใช้ทำอะไรเช่นกัน ดังนั้น ทุกอย่างต้องโปร่งใส และต้องมีกระบวนการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลมาเป็นเกณฑ์ ซึ่งต้องทำความเข้าใจและยอมรับ

“ดังนั้นอยากให้ทุกคนตระหนักว่า การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด ก่อนที่จะแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลออกไปควรจะทราบว่า ข้อมูลจะถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไรบ้าง และเครือฯ ให้ความสำคัญกับพรบ. ข้อมูลส่วนบุคคล หากเพื่อนพนักงานมีข้อสงสัยเรื่องนี้ก็สามารถสอบถามสำนักทรัพยากรบุคคลในสังกัดได้”คุณพลชนพ อุปถัมภ์กล่าวฝากทิ้งท้าย