เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 สำนักยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้จัดการประชุมการสื่อสารเชิงรุกกลุ่มย่อยคณะทำงานสื่อสารองค์กรจากผู้แทนจากกลุ่มธุรกิจหลักของเครือฯ เพื่อผนึกกำลังความร่วมมือร่วมใจในการสื่อสารในระดับเครือไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีผู้บริหารและบุคลากรจากหน่วยงานสื่อสารองค์กร ประชาสัมพันธ์ และการตลาดจากกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ เข้าร่วมกันอย่างคับคั่งด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองกว่า 30 ท่าน
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ฉายภาพถึงความสำคัญของการสื่อสารว่า เมื่อขนาดธุรกิจใหญ่ขึ้น ความคาดหวังสูงขึ้น แต่ความเชื่อใจน้อยลง ดังนั้นการดำเนินธุรกิจไม่ใช่แค่การดำเนินธุรกิจแบบเดิม แต่ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างก้าวหน้ากับผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทุกวันนี้การสื่อสารเชิงคุณค่าไม่ใช่แค่การนำเสนอข่าวแบบดั้งเดิม แต่คือการสื่อสารผ่านกับคน องค์กร ผลิตภัณฑ์ โลก ท้องถิ่น และคู่แข่งขัน นอกจากนี้เราต้องเดินสู่แบรนด์แห่งความยั่งยืน หรือ Sustainable brand โดยการสื่อสารความดีเพื่อความยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์การสื่อสารแบบใหม่ (Communication Design) อย่างไรก็ตามเครือฯ ไม่อาจทำทุกอย่างได้เพียงลำพัก ต้องอาศัยทุกกลุ่มธุรกิจเพื่อทำให้อัตลักษณ์ของแบรนด์ และการสื่อสารให้เกิดประสิทธิภาพ
การประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาด้านการสื่อสารและความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ มาร่วมถ่ายทอดแนวคิดการสร้างแบรนด์ “Brand Cascade…แนวทางสู่การทำสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร” ที่เผยหัวใจของการสื่อสารผ่านแบรนด์ว่า ล้วนแล้วมีสาเหตุเพราะเราต้องการเป็นหนึ่งเดียวในโลก ให้ลูกค้าหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจดจำว่าต้องเลือกเราเพราะอะไร เห็นความแตกต่างไม่เหมือนคนอื่น ดังนั้นกระบวนการคือ เราต้องกลับมาตั้งคำถามให้ชัดว่าเราคืออะไร และหากสำเร็จลูกค้าจะแปรเปลี่ยนเป็นกลุ่มแฟนที่พร้อมปกป้องแบรนด์ในที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอตัวอย่างงานด้านความยั่งยืน อันได้แก่ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับซีพีเอฟ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้าขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องตลอด 37 ปีที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมโภชนาการที่ดีให้แก่นักเรียนในพื้นที่ห่างไกล โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมแล้วกว่า 1,018 แห่งทั่วประเทศ ช่วยให้นักเรียนกว่า 229,502 คน ได้รับประโยชน์จากโครงการทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งผู้แทนจากกลุ่มธุรกิจหลักของเครือฯ ได้ร่วมกันนำเสนอแนวทางการประชาสัมพันธ์เพื่อยกระดับให้โครงการดีๆ เป็นที่รู้จักต่อในวงกว้าง
โดยตลอดงานเป็นไปด้วยบรรยากาศที่สนุกสนาน อุดมไปด้วยไอเดียดีๆ ผ่านการการรวมพลังระดมความคิดของคณะทำงานด้านการสื่อสารของผู้แทนจากกลุ่มธุรกิจหลักของเครือฯ ที่พร้อมจะเปลี่ยนและรวมพลังเพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นสร้างคุณค่าที่ดีสู่สังคมอย่างยั่งยืนในทิศทางเดียวกัน