ไทยอย่าประมาท! “เวียดนาม-มาเลย์” คู่แข่งส่งออกทุเรียนไปจีน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในปี 66 การส่งออกผลไม้ของไทยไปจีน นำโดยทุเรียน มีบทบาทต่อภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยไปจีน ในสัดส่วนถึง 18.2% ของการส่งออกสินค้าไทยไปจีนทั้งหมด ขณะที่ภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยไปจีน หดตัวเล็กน้อยที่ -0.8% แต่หากไม่รวมสินค้าในกลุ่มผลไม้ จะหดตัวที่ -5.3%

ขณะที่ทุเรียนสด ถือเป็นผลไม้ที่มีสัดส่วนการส่งออกสูงสุด และมีสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลักมาจาก 1. ความต้องการบริโภคทุเรียนในตลาดจีนมีมากขึ้นตามความนิยม และ 2. ปริมาณผลผลิตทุเรียนในประเทศที่เพิ่มขึ้นตามพื้นที่เพาะปลูก

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ การขยายช่องทางการขาย ทั้งช่องทางออนไลน์ และการเพิ่มช่องทางขนส่งทางราง ผ่านรถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว ช่วยลดระยะเวลาและเพิ่มความสะดวกในการขนส่งได้มากขึ้น ซึ่งในปี 66 เริ่มมีการส่งทุเรียนผ่านเส้นทางนี้มากขึ้น คิดเป็น 5.7% ของการส่งออกทุเรียนทั้งหมดไปจีน

สำหรับปี 67 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ภาพรวมการส่งออกทุเรียนสดไทยไปจีน อาจอยู่ที่ 4,500 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 12%YoY เติบโตในทิศทางชะลอลง เนื่องจากฐานที่สูงในปีก่อน โดยเป็นผลจากปริมาณส่งออกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 10% ซึ่งเติบโตชะลอลงจากปีก่อน เนื่องจากผลผลิตบางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวน

ขณะที่ราคาส่งออก คาดว่าขยับขึ้นได้เล็กน้อยที่ 2% เติบโตชะลอลงจากปีก่อน เพราะแม้ความต้องการทุเรียนสดจากไทยตลาดจีนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ทุเรียนสดจากไทยถูกกดดันจากคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ ทั้งนี้ หากการส่งออกทุเรียนสดต่ำกว่าคาดการณ์ ก็อาจส่งผลต่อการส่งออกไทยไปจีนในภาพรวม

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า หากมองไปข้างหน้า ความสามารถด้านการแข่งขัน เป็นประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการส่งออกทุเรียนสดของไทยไปจีน แม้ว่าในปี 66 ทุเรียนสดของไทย จะยังคงครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ไว้ได้ หรืออยู่ที่ราว 68% ของมูลค่าการนำเข้าทุเรียนสดทั้งหมดของจีน แต่ทุเรียนเวียดนาม เริ่มมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น หลังได้รับอนุญาตจากทางการจีนให้ส่งออกทุเรียนสดอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนก.ค. 65 ประกอบกับมาเลเซีย ที่อาจได้รับอนุญาตให้ส่งออกทุเรียนสดไปยังจีนได้ในปีนี้ น่าจะส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของทุเรียนสดไทยในจีนที่อาจปรับลดลงได้

“การรักษาคุณภาพของทุเรียนไทย ที่ปัจจุบันยังมีความได้เปรียบ จากรสชาติที่เป็นที่นิยม และความหลากหลายของพันธุ์ จะเป็นกุญแจสำคัญ ท่ามกลางภาวะที่คู่แข่งจากประเทศเพื่อนบ้าน และกระทั่งในจีน กำลังเร่งพัฒนาผลผลิตทุเรียน เพื่อรองรับกับความต้องการบริโภคทุเรียนของชาวจีนที่ยังมีอยู่มาก และจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงข้างหน้า” บทวิเคราะห์ ระบุ

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์