ธุรกิจเครือซีพีทำไมทำอะไรต้องยั่งยืน

สวัสดีครับพี่น้องชาวซีพีเข้าสู่ช่วงเดือนก่อนส่งท้ายปี 2562 กันแล้ว หลายคน หลายหน่วยงานต่างก็มีการทบทวน ประเมินผลและวางแผนการทำงานของปีหน้า 2563 กันแล้ว หลายคนบอกว่าหากมองย้อนกลับไปของปี 2562 หลายคนก็มองว่าปี 2562 ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะในด้านการทำธุรกิจ เพราะตลอดปี 2562 มีข่าวลบมากกว่าบวก ไหนจะสงครามการค้าของ 2 พี่เบิ้มอย่างจีน อเมริกา ทำเอาโลกย่ำแย่ ไหนจะค่าเงินบาทแข็ง ทำให้การค้าขายกับต่างประเทศยากลำบาก ไหนภาคเกษตรที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศกำลังซื้อหดตัวทำให้หลายคนกังวลใจกับภาวะเศรษฐกิจ แม้จะมีมาตราการกระตุ้นจากภาครัฐอัดตอนปลายปี

แต่ท่ามกลางข่าวไม่ดี ผมยังคิดในแง่ดีว่ายังมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นนั่นคือความตื่นตัว ตระหนักรู้ในเรื่องของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ตลอดปี 2562 คนทั้งโลกรวมทั้งคนไทยต่างตื่นตัวในเรื่องของภาวะโลกร้อน เรื่องของพลาสติก เรื่องทะเล เรื่องของฝุ่นละออง 2.5 ฯลฯ ทุกภาคส่วนออกมาพูดกันบ่อยขึ้น มีการเรียกร้องให้คนทั้งโลก ทั้งเมืองไทยตื่นตัวและลงมือทำอะไรกันจริงจัง อย่างล่าสุดเทศกาลลอยกระทง แทบไม่น่าเชื่อมีสถิติที่ดีในการใช้กระทงโฟมลดลง กระทงจากวัสดุธรรมชาติเพิ่มขึ้น

ที่ผมเขียนมาซะยืดยาว อยากจะบอกว่ากิจการของเครือซีพีต้องปรับตัวให้เข้ากับความตื่นตัวของสังคมที่หันมาใส่ใจเรื่องโลก เรื่องสิ่งแวดล้อม คนไทย คนทั่วโลกต่างเห็นแล้วว่าเรื่องของการทำธุรกิจกับเรื่องของความยั่งยืนเกี่ยวข้องกัน กระแสเรียกร้องให้ภาคเอกชนหันมาทำธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนร้อนแรงมากขึ้นและหากใครไม่ทำหรือตรงข้ามไม่สนใจเรื่องความยั่งยืนก็อาจจะตกเป็นเป้า ที่ผู้บริโภคหรือประชาชนจะปฏิเสธที่จะซื้อสินค้า บริการ หรือบอยคอตภาคธุรกิจ โลกไม่ได้ถูกดิสรัปชั่นจากเทคโนโลยีแต่ยังถูกดิสรัปชั่นจากกระแสความยั่งยืนด้วย

ดังนั้นคนซีพี หน่วยงานซีพีคงพอจะเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมในช่วงหลังเครือซีพีจึงประกาศนโยบายความยั่งยืน จึงสื่อสารพูดถึงความยั่งยืนมากขึ้น มีหลายหน่วยงานต่างพากันสร้างกระแสความตื่นตัวให้กับผู้บริหารและพนักงาน ให้พวกเราคิดจะทำอะไรต้องระวังและใส่ใจในเรื่องของความยั่งยืนตลอดเวลา

จึงอยากชวนชาวซีพีร่วมด้วยช่วยกันเลิกถามว่าทำไมทำอะไรต้องมีเรื่องความยั่งยืน แล้วหันมาร่วมกันลงมือทำทุกอย่าง ทั้งการกิน การใช้ชีวิต การคิด การทำงานที่คำนึงถึงความยั่งยืน