ทำไม Ascend จึงลงทุนในธุรกิจ Fintech?

รายงานจาก KPMG พบว่าในปี 2016 ประชากรเพียง 27% ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีบัญชีธนาคารและในประเทศกำลังพัฒนา เช่น กัมพูชา ตัวเลขนี้ ตกลงมาอยู่ที่แค่ 5% ในขณะที่ McKinsey ได้ทำการศึกษาประชากรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากกว่า 2,500 ล้านคน ทั่วโลกในปี 2010 พบว่าส่วนใหญ่ อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้ รายงาน ยังพบอีกว่า หากเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้เข้าถึงธุรกรรมทางการเงิน การเติบโตของเศรษฐกิจของภูมิภาคจะกระโดดจาก 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ไปถึง 52,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2030 และ KPMGยังได้วิเคราะห์ด้วยว่าการเข้าไม่ถึงธุรกรรมทางการเงิน ทำให้เกิดอุปสรรคต่อการกู้เงินหรือกระทั่งการออมเงิน

ทั้งนี้ หากมีนวัตกรรมเทคโนโลยีผ่านโทรศัพท์มือถือหรือเครือข่าย ตัวแทน ประชากรที่ไม่มีบัญชีเงินฝาก จะสามารถเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนกลุ่มนี้ ไปในตัว โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการของธนาคารที่มักมีข้อจำกัด ด้วยเหตุนี้บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัดจึงเลือกที่จะลงทุนใน ธุรกิจฟินเทค โดยมีพันธกิจที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรที่เข้าไม่ถึงสถาบันการเงินด้วยการคิดค้นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ ในการให้บริการการชำระเงินหรือโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ และ การสร้างเครือข่ายตัวแทน เพื่อให้บริการทางการเงินทั่วทั้ง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านสำนักงานในประเทศไทย เมียนมาร์ กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

นวัตกรรมธุรกิจฟินเทคยังช่วยลดการใช้เงินสด ซึ่งมีต้นทุน มหาศาลในการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการเข้าถึง เงินสด ส่งผลให้ ประชาชนผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ต้องได้รับ ความช่วยเหลือตามสวัสดิการ ได้รับความช่วยเหลือช้ากว่าที่ ควร เพราะการเข้าถึงแหล่งเงินสด มีข้อจำกัด การโอนเงินมีค่าธรรมเนียมสูง การต้องพกเงินสดติดตัวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากร้านค้ารับแต่เงินสด ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัย เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิด การคอร์รัปชั่น ไม่ได้เข้าสู่ระบบภาษี ทำให้หลีกเลี่ยงภาษีได้ง่าย และยังมีงานเอกสารอีกมาก ทั้งหมดทำให้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทางการเงินลดลง

ก้าวแรกในการที่จะให้ผู้คนเข้าถึงธุรกรรมทางการเงิน คือการเปลี่ยน รูปแบบของเงินให้กลายเป็นดิจิทัลและให้การส่งและรับเงินเกิดขึ้น ได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ หากมีเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการ รวมถึงเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และตัวแทนที่ ครอบคลุม อนาคตทางการเงินของประชากร 600 ล้านคนในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้จะยิ่งสะดวกขึ้น บริการทางการเงินจะมีอย่างแพร่หลายในค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง เพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อย

 

ข้อมูลอ้างอิง : KPMG