แบคทีเรียสังเคราะห์แสงอีกผลงานนวัตกรซีพี

ผลงานนวัตกรรมด้านสังคมที่wearecpนำมาบอกเล่าที่ผ่านมาจะออกไปเฉดการช่วยสังคม ชุมชน องค์กร คราวนี้จะพาไปดูผลงานในฟาร์มกันที่ชื่อยาวๆว่า”ลดแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ แก๊สชีวภาพด้วยแบคทีเรียสังเคราะห์แสง”เป็นผลงานของทีมงานซีพีเอฟคือคุณศิริพร ใยอุ่น คุณเอกชัย สมจันทร์ คุณประณต หมดมลทิน และคุณประยงค์ อุ่นเนื้อ ที่พบว่าเครื่องปั่นไฟฟ้าจากแก๊สชีวภาพคือหัวใจสำคัญของการผลิตไฟฟ้าเพื่อการผลิตสุกร มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการบำรุงรักษาและถนอมเครื่องยนต์ให้มีสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา แต่ทว่า แก๊สชีวภาพที่เกิดขึ้นในบ่อหมักจะประกอบไปด้วย แก๊สมีเทน 50-70% แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 30-50% แก๊สออกซิเจน และแก๊สอื่นๆ ที่นำมาใช้ผลิตไฟฟ้าและแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟล์ หรือแก๊สไข่เน่า เป็นแก๊สพิษที่อันตรายต่อคน เมื่อแก๊สนี้สัมผัสกับน้ำหรือไอน้ำจะเปลี่ยนเป็นกรดซัลฟูริก มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง เป็นอันตรายต่อเครื่องปั่นไฟฟ้า

ความคิดริเริ่มก่อนเป็นนวัตกรรม
ทีมงานนี้เล่าว่าการจัดการของเสียในฟาร์มที่เกิดจากมูล ซากสัตว์ตายและน้ำเสียจากกระบวนการเลี้ยงสุกร เพื่อลดมลภาวะต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม จะถูกจัดการเข้าระบบไบโอแก๊ส เกิดเป็นแก๊สชัวภาพประกอบไปด้วยแก๊สมีเทน(CH4) 50-70%,คาร์บอนไดออกไซด์(CO2) 30-50%, ออกซิเจน(O2),H2Sและอื่นๆ 5% มีเทนเป็นแก๊สชีวภาพหลัก คุณสมบัติติดไฟนำมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าภายในฟาร์มโดยใช้เครื่องปั่นไฟฟ้าที่เรียกว่า Generator เพื่อให้การผลิตไฟฟ้าได้มีประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ผลิตพลังงาน และเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า จึงจำเป็นต้องปรับปรุงคุณภาพของแก๊สชีวภาพ ลดแก๊ส H2S ที่เป็นอันตรายต่อคนและสิ่งแวดล้อม มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง มีผลกระทบต่ออุปกรณ์มากกว่า 300,000 บาท/ปี คิดเป็นค่าใช้จ่าย ทั้งธุรกิจสุกรมากกว่า 27ล้านบาท /ปี โดยศึกษาและนำความรู้ของแบคทีเรียสังเคราะห์แสงที่ใช้ประโยชน์เพิ่มผลผลิตข้าว แก้ปัญหาสภาวะแบบไม่มีออกซิเจนทำให้แบคทีเรียที่ใน กลุ่มแอนแอโรบิคแบคทีเรีย เจริญได้ดี สร้างก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) ซึ่งมีผลไปยับยั้งกระบวนการสร้างเมตาโบลิซึมของรากข้าว แบคทีเรียสังเคราะห์แสงจะเปลี่ยนไฮโดรเจนซัลไฟด์ ให้อยู่ในรูปสารประกอบ ซัลเฟอร์ในรูปซัลเฟตที่ไม่เป็นพิษต่อรากจึง มีผลให้รากของต้นข้าวเจริญงอกงามข้าวก็มีความแข็งแรง มีเป้าหมายเพื่อ1.ลดการปล่อยแก๊สมีเทนจากการเลี้ยงสุกรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม 2.สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อชุมชนเพิ่มโอกาสในการสร้างความเติบโตของธุรกิจจากการใช้พลังงานทดแทนจากแก๊สชีวภาพมากกว่า80%

ถือเป็นความคิดริเริ่มใหม่ที่นำเทคโนโลยีทางชีวภาพกลุ่มแบคทีเรีย มาใช้ประโยชน์ในการลดปัญหาที่ให้ผลลัพธืที่ดี เช่นเดียวกับการใช้สารเคมีจากท้องตลาด ผลิตได้ง่ายไม่เป็นอันตรายต่อคนและสิ่งแวดล้อม ขยายผลต่อชุมชนได้

โดยนำเทคโนโลยีการการลดกลิ่นเหม็นบริเวณท้ายโรงเรือนเลี้ยงสุกร โดยใช้น้ำเป็นตัวดักจับกลิ่นหรือการสเปรย์กลิ่นหอม เพื่อดับกลิ่นในบ้านเรือนมาประยุกต์ใช้ 2.เลือกสิ่งมีชีวิตกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีมากมายและขยายได้ง่าย จากผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์หน่อกล้วยย่อยซากและลดกลิ่นส้วมน้ำ มาใช้โดยเปลี่่ยนเป็นการใช้แบคทีเรียที่มี pH สูง กลุ่มที่เจริญโตโตได้ดีในสภาพ ด่าง (เทียบเคียงการใช้ปูนขาวเติมในบ่อกรองH2S)

สำหรับคุณค่าของผลงานทีมงานถือว่าเป็นผลงานที่มีความใหม่ในระดับสายธุรกิจสุกรและการใช้ในระบบไบโแก๊ส ซึ่งจะต้องลุ้นกันว่าจะฝ่าด่านกรรมการเข้าไปถึงระดับไหน