Krungthai COMPASS ประเมินอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.0% ชะลอลงจากปี 2566 ที่ 1.23% จากราคาหมวดพลังงานที่มีแนวโน้มอยู่ต่ำกว่าปี 2566 โดยปรับลดลงตามราคาน้ำมันขายปลีกทั้งดีเซลและเบนซิน ภายใต้สมมติฐานที่ภาครัฐตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งลดลงจากราคาในปี 2566 เฉลี่ย 32.1 บาทต่อลิตร และราคาน้ำมันเบนซินมีแนวโน้มปรับลดลง ส่วนหนึ่งจากการลดภาษีสรรพสามิตที่คาดว่าจะภาครัฐขยายระยะเวลาออกไป (ที่จะสิ้นสุด 31 ม.ค. 67) รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยทั้งปีมีแนวโน้มทรงตัว สำหรับค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มปรับลดลงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาความเสี่ยงด้านความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในทะเลแดงที่ส่งผลให้ต้นทุนค่าระวางเรือขยับขึ้น รวมทั้งแรงกดดันที่มีต่อราคาน้ำมันดิบให้ปรับสูงขึ้นกว่าที่คาดได้
นอกจากนี้ กรณีอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่อง ซึ่งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ธ.ค. 2566 ติดลบ 0.83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งถือว่าต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ที่ -0.3% เหตุผลหลักมาจากการติดลบในหมวดพลังงาน (-5.12%YoY) ที่มีนโบายลดค่าไฟและค่าน้ำมัน รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง และหมวดอาหารสด (-2.3%YoY) ตามราคาเนื้อสุกร-ผักสดที่ลดลง
ทาง Krungthai COMPASS ประเมินว่าแม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่อง แต่ประเมินว่าเศรษฐกิจยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะเงินฝืดเนื่องจาก
1) ภาครัฐมีมาตรการลดภาระค่าครองชีพด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยหลักทำให้อัตราเงินเฟ้อติดลบ ได้แก่ ลดค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือน ก.ย. 66 ลดราคาน้ำมันดีเซลในเดือน ต.ค. 66 และลดราคาน้ำมันเบนซินในเดือน พ.ย. 66 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 หดตัว 3.7%YoY
2) ราคาสินค้าบางรายการขยายตัวชะลอลง เนื่องจากผู้ประกอบการเร่งระบายสต๊อกสินค้า และอุปทานในตลาดเพิ่มขึ้น โดยจากข้อมูลรายงานของสภาพัฒน์พบว่า สินค้าคงคลังปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนถึงผู้ผลิตนำสินค้าในสต๊อกมาขายและอาจปรับลดราคาลงเพื่อเร่งระบายสินค้า นอกจากนี้อุปทานของสินค้าบางชนิดมีปริมาณเพิ่มขึ้นในตลาดทำให้ราคาปรับลดลง เช่น ปริมาณเนื้อสุกรในระบบที่มีมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้ราคาเนื้อสุกรปรับลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี คาดว่าราคาสินค้าในกลุ่มนี้จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังอุปทานทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ในเดือน ธ.ค. 2566 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.58%YoY ชะลอตัวต่อเนื่องจากสินค้าที่หดตัว ได้แก่ เครื่องประกอบอาหาร ขณะที่ราคาสินค้าที่ขยายตัวชะลอลง ได้แก่ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อาหารบริโภคในบ้าน เครื่องนุ่มห่มและรองเท้า เป็นต้น ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 อยู่ที่ 1.23% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.27%
ในภาพรวม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 อยู่ที่ 1.23% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.27%
ที่มา Krungthai COMPASS