แม็คโคร – โลตัสส์ หนุน SMEs ไทยสู้โควิด พาเติบโตสู่ตลาดอาเซียน

เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา โควิดเล่นงานหนัก นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของคนไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบกิจการรายเล็กรายย่อยหรือ SMEs เพราะหนทางแทบมืดมิด เศรษฐกิจไม่มีวี่แววจะฟื้นตัว คนมีกำลังซื้อน้อยลง ช่องทางการขายสินค้า ต้องปรับเปลี่ยน ด้วยข้อจำกัดในการควบคุมเชื้อโควิด

ภาพสะท้อนที่น่าเศร้า หลายธุรกิจเจ๊ง ต้องปิดตัวลง แต่หลายธุรกิจต้องกัดฟันสู้ เพื่อพยุงตัวให้รอด ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนแบบนี้ ไม่มีใครบอกได้เลยว่า ธุรกิจจะอยู่รอดหรือไม่ เพราะพฤติกรรมของลูกค้า และความต้องการของตลาดเอง ก็เริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม

หากในช่วงนี้ จะพูดถึงการขยายตลาด หรือส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ หลายคนคงมองว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะปกติการนำสินค้าเข้าไปอยู่ในระบบจัดจำหน่ายของแต่ละประเทศนั้น มีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน แถมบางตลาดก็มีผู้ผลิตเจ้าประจำอยู่แล้ว ทำให้การส่งออกสินค้าไปยังตลาดใหม่ ๆ ทำได้ยาก ยิ่งช่วงโควิดที่เศรษฐกิจต่างชาติเองก็หดตัวด้วยแบบนี้ เรื่องขยายตลาดส่งออก คงเป็นข้อจำกัดของผู้ประกอบการรายย่อย จนแทบจะเป็นไปไม่ได้!!!

ถ้าถามว่า SMEs ไทยมีโอกาสเติบโตใน “ตลาดอาเซียน” ไหม?

จันบอกได้เลยค่ะ ว่ายังมีโอกาส ถ้าเรากล้าเปิดใจ สำหรับผู้ผลิตรายย่อยหรือ SMEs ที่ไม่มีหน้าร้านของตนเอง การได้ฝากวางขายสินค้าบนเชลฟ์ในห้างค้าส่ง ค้าปลีก นับเป็นช่องทางสำคัญ ที่จะสามารถกระจายสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างทั่วถึง มีโอกาสสร้างรายได้ที่มั่นคง

โดยที่ผ่านมา แม็คโครเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีนโยบายสนับสนุนธุรกิจรายย่อย ทั้งโชห่วย เกษตรกร รวมถึงผู้ผลิตสินค้า โดยจะรับซื้อผลผลิตจากชาวไร่ ชาวสวน และ SMEs มาวางจำหน่าย กระจายไปในทุกสาขา ซึ่งมี SMEs ไทยหลายราย พัฒนาสินค้าคุณภาพ นำสินค้าไทยส่งไปสร้างแบรนด์ ขยายตลาดยังภูมิภาคอาเซียนกันไม่น้อยแล้ว

ล่าสุด หลายคนอาจจะเห็นข่าวมาบ้างว่า “แม็คโคร” จะเข้าถือหุ้น “โลตัสส์” ทั้งในไทยและมาเลเซีย เพื่อรองรับการขยายตลาด ไปสู่ภูมิภาคอาเซียนที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น และมีฐานประชากรขนาดใหญ่ กว่า 600 ล้านคน!!!

ที่จันเล่ามา หลายคนอาจจะมองว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับธุรกิจรายย่อยอย่างเรา แต่ลองคิดดูค่ะ ถ้าการรวมตัวของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ครั้งนี้จะจับมือควงคู่ไปกับการพัฒนา SMEs ธุรกิจเล็ก ๆ อย่างเรา แล้วพากันไปเติบโตในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่น ๆ โดยมีสินค้าไทยโกอินเตอร์ไปด้วย งานนี้จะสุดปังแค่ไหน?

เพราะต้องบอกว่า เดิมทีการจะส่งสินค้าไปต่างประเทศนั้น มีต้นทุนไม่น้อยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการหาช่องทาง การโฆษณาทำการตลาด ไปจนถึงเรื่องโลจิสติกส์ แต่ถ้าต่อไป เราสามารถใช้แม็คโครและโลตัสส์ในต่างประเทศ มาเป็นช่องทางละก็ จันคิดว่าน่าจะทำให้ต้นทุนเบาลงได้บ้าง แถมเป็นการเพิ่มโอกาสให้ SMEs ไทยเข้าไปเจาะตลาดในต่างประเทศได้ง่ายกว่าการลุยเข้าไปคนเดียวอย่างแน่นอน

แล้วทำธุรกิจอย่างไร ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอาเซียน?

เรื่องนี้ 2 บริษัทที่มีสาขาในต่างประเทศอยู่แล้ว อย่างแม็คโครและโลตัสส์ เขาได้วิเคราะห์เทรนด์ของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่เสมอ ทำให้ผู้ผลิตสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้า จะได้พัฒนาสินค้าให้ถูกใจ และตรงตามพฤติกรรมการบริโภคของแต่ละชาติได้ รวมทั้งวางแผนการผลิต การจัดจำหน่าย นำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ และปลอดภัย ไปขยายตัวยังตลาดต่างประเทศ

โดยในจังหวะที่วิกฤตเริ่มคลี่คลายแบบนี้ การขยายธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว ถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจมากค่ะ ไม่ใช่เฉพาะสำหรับห้าง แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญที่จะผลักดันธุรกิจรายย่อยไทยให้เติบโต และเข้าสู่การแข่งขันในระดับภูมิภาคได้อีกด้วย

Cr.Ejan