MQDC เปิดโฉม ‘แฮปปี้แทท’ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ชูจุดเด่น Themed Destination of Happiness ตอบทุกเจเนอเรชั่น

เชื่อมประสบการณ์โลกจริง และโลกเสมือนเข้าด้วยกันในที่เดียว การก่อสร้างความพร้อมต่าง ๆ คืบหน้าแล้วประมาณ 70%

อรดา เกิดหงษ์ ประธานผู้อำนวยการ Storied Place, MQDC เปิดเผยว่า

“MQDC ผู้พัฒนาโครงการเมือง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ซึ่งมีพื้นที่ 398 ไร่ กำลังสร้างสรรค์ Themed Destination of Happiness ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ เพื่อเป็นจุดหมายแห่งความสุขแห่งใหม่ โดยใช้ชื่อว่า ‘แฮปปี้แทท’ ซึ่งจะเป็นจุดหมายแห่งแรกที่เชื่อมประสบการณ์บนโลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน ครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างใหญ่ เพื่อให้ผู้คนได้สัมผัสกับมิติใหม่ของประสบการณ์ในเดอะ ฟอเรสเทียส์”

แฮปปี้แทท ซึ่งมาจากคำว่า Habitat กับ Happiness ประกอบเข้าด้วยกัน จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ยกระดับการพัฒนาจุดหมาย หรือ Destination ไปอีกขั้น

โดยมุ่งเป็นที่ที่ผู้คนอยากกลับมาเที่ยวอยู่เรื่อย ๆ เพราะทุกครั้งที่มา จะได้เจอกับประสบการณ์ใหม่ ๆ เสมอ จากกิจกรรมในร่มและกลางแจ้งที่มีตลอดทั้งปี และกิจกรรมรองรับไลฟ์สไตล์หลากหลาย ซึ่งในอนาคต หลาย ๆ มิติของแฮปปี้แททจะผสมผสานเชื่อมโยงกับโลกเสมือน

อรดา เกิดหงษ์ ประธานผู้อำนวยการ Storied Place, MQDC

โดยเป้าหมายของเราคือการทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้น มีความสุข กับทุกสิ่งอย่างที่ได้สัมผัส ในทุกครั้งที่มาเยือน เหมือนกับความรู้สึกครั้งแรกที่ได้มา ไม่ว่าจะมาทำกิจกรรมอะไร แต่ขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกอบอุ่น สบายใจ และคุ้นเคยด้วย”

ในพื้นที่เกือบ 60 ไร่ของแฮปปี้แทท ประกอบไปด้วยพื้นที่ป่า ที่อยู่ใจกลางเดอะ ฟอเรสเทียส์ พื้นที่สวนต่าง ๆ และโถงทางเดินสำหรับขบวนพาเหรด ร้านค้า ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านให้บริการต่าง ๆ สารพัดนับร้อย ๆ ร้าน ศูนย์การเรียนรู้ ความบันเทิง สถานที่ทำกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสังคม มาร์เก็ตต่าง ๆ และพิพิธภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงพื้นที่สำนักงาน โดยแฮปปี้แททประกอบไปด้วย 3 อาคาร พื้นที่ใช้สอยรวมกันประมาณ 211,000 ตารางเมตร

ทาง MQDC ทำงานกับผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดระดับโลกในด้านการวางแผนพัฒนาโครงการที่เป็นจุดหมายแห่งความสุข และด้านความบันเทิง เพื่อร่วมกันทำมาสเตอร์แพลนของ แฮปปี้แทท โดยมาสเตอร์แพลนของแฮปปี้แทท จะนำพาผู้มาเยือนให้เคลื่อนจากภูมิทัศน์เมืองและวิถีชีวิตแบบในเมือง จากถนนใหญ่ เข้าสู่เดอะ ฟอเรสเทียส์ ค่อย ๆ ผ่านเข้าไปพบกับความเงียบสงบของธรรมชาติ ณ ป่า 30 ไร่ เป็นการเดินทางที่เติมเต็มชีวิต จาก ‘เมืองใหญ่ที่พลุกพล่าน’ ไปสู่ ‘ธรรมชาติที่เหนือธรรมดา’”

การเดินเคลื่อนจากชีวิตในเมือง เข้าไปกลางผืนป่าใหญ่ จะผ่านเส้นทางที่มีประสบการณ์มหัศจรรย์มากมายรอรับตลอดเส้นทาง ผู้มาเยือนสามารถเลือกที่จะเพลิดเพลินแบบอิ่มเอมเดินรวดเดียวต้นจนจบ หรือจะปล่อยใจค่อย ๆ แวะพัก เพลิดเพลินตามจุดต่าง ๆ ตลอดเส้นทาง โดยในอนาคตยังจะเสริมด้วยประสบการณ์อันหลากหลายของโลกเสมือน เพื่อทำให้การเดินทางนอกจากจะมีความสนุกสนานแล้ว ยังได้ความรู้ ตลอดจนสร้างโอกาสทางการค้าให้ผู้ร่วมรังสรรค์แฮปปี้แทท ให้สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายมากขึ้นด้วย”

หนึ่งในบทบาทสำคัญที่สุดของแฮปปี้แทท คือเป็นศูนย์กลางที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นพื้นที่เชื่อมโยงความสุขของคนทุกเจเนอเรชั่น ทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในโครงการที่พักอาศัยหลากหลายที่อยู่ในพื้นที่เดอะ ฟอเรสเทียส์ รวมไปถึงผู้คนทั่วไปจากภายนอกโครงการที่มาเยือนที่นี่ มีพื้นที่ทำกิจกรรม 4,000 ตารางเมตรที่จัดสรรให้เป็นโรงละคร หรือพื้นที่กิจกรรมและการแสดง โดยมุ่งสร้างความรู้สึกผูกพันภายในชุมชนและเปลี่ยนสถานที่ที่ธรรมดาทั่วไป ให้กลายเป็นชุมชนที่คึกคักมีชีวิตชีวา

ไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของแฮปปี้แทท คือ พื้นที่กิจกรรมที่สามารถรองรับขบวนพาเหรดและกิจกรรมได้ตลอดทั้งปี ซึ่งถือเป็นประสบการณ์เฉพาะตัวของแฮปปี้แทท ที่หาไม่ได้จากที่ไหน โดยหลายกิจกรรมในจำนวนนี้จะสร้างสรรค์ให้เด็ก ๆ ได้ตื่นตาตื่นใจไปกับมนต์เสน่ห์ของงาน จากการได้พบปะและมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครแฟนตาซีต่าง ๆ รวมทั้งการได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม

“แฮปปี้แททจะเป็นจุดหมายแห่งแรกในโลกที่รวม องค์ประกอบสำคัญไว้ในที่เดียว ได้แก่ พื้นที่ อีเวนต์และกิจกรรม และโลกเสมือน เพื่อสร้างโครงการจุดหมายที่ล้ำที่สุด”

“องค์ประกอบแรก คือการมีพื้นที่สวยๆ ให้คนทุกเจเนอเรชั่นและทั้งครอบครัวได้ทำสิ่งต่างๆ ร่วมกัน ทุกวัน ไม่ว่าจะทานอาหาร พักผ่อน ใช้ชีวิต ดูแลสุขภาพสุขภาวะ หรือทำกิจกรรมบันเทิง เรียนรู้ หรือกิจกรรมด้านวัฒนธรรม โดยที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ”

“เราผสานสิ่งต่าง ๆ เข้าไปในกิจกรรมที่จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ่อยครั้งและเป็นประจำ โชว์และขบวนพาเหรดต่าง ๆ ที่มุ่งให้คนทุกวัยรู้สึกตื่นตาตื่นใจ ตลอดจนสร้างโอกาสให้ผู้คน เป็นได้มากกว่าผู้ชมกิจกรรม แต่ไปเป็นผู้จัดกิจกรรมเองได้ด้วย หรือมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในสิ่งที่คอมมูนิตี้ช่วยกันคิดสร้างสรรค์ขึ้น”

“องค์ประกอบอย่างที่สามคือโลกเสมือน ที่คนทุกวัยจะได้สนุกและเรียนรู้จากประสบการณ์หลากหลายของโลกเสมือน หรือแม้กระทั่งการเข้าไปในโลกเสมือนแบบเต็มตัว เพื่อทำกิจกรรม เล่นเกมสันทนาการ ทั้งแบบทำคนเดียว ทำกับสมาชิกทั้งครอบครัว หรือกับสมาชิกคนอื่น ๆ ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน ประสบการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ในอนาคตจะถูกผสมผสานเข้าไปกับหลาย ๆ จุดในแฮปปี้แทท รวมเข้าไปถึงในพื้นที่ป่า เพื่อให้คนได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ และมีปฏิสัมพันธ์กับสรรพสัตว์ต่าง ๆ ได้ด้วย AR สิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีใครทำในสเกลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน”

เดอะ ฟอเรสเทียส์ จะมี Digital Twin และมีมิติอื่น ๆ ของโลกเสมือนอยู่ในจักรวาล Idyllias ซึ่งจะเป็นจักรวาลเมตาเวิร์สหนึ่ง บนแพลตฟอร์มของ Translucia ทั้งนี้ Translucia กำลังถูกพัฒนาโดย บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล ประเทศไทย ซึ่งนอกจาก Idyllias แล้ว บนแพลตฟอร์มของ Translucia จะมีจักรวาล Mittaria และจักรวาลอื่น ๆ อยู่บนนั้นด้วย

กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ประธานผู้อำนวยการโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC เปิดเผยว่า

โครงการแฮปปี้แททเฟสแรก ใช้เงินลงทุนมากกว่า 20,000 ล้านบาท โดยการก่อสร้างและเตรียมการอื่น ๆ สำหรับแฮปปี้แททคืบหน้าไปแล้วประมาณ 70% คาดว่าผู้เข้าอยู่อาศัยกลุ่มแรกของการเดอะ ฟอเรสเทียส์ จะสามารถย้ายเข้าไปอยู่อาศัยได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567

โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 398 ไร่ บริเวณถนนบางนาตราด กม.นอกจากพื้นที่แฮปปี้แทท ซึ่งเป็น Themed Destination of Happiness แล้ว เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายโครงการ โรงแรม แห่ง ศูนย์สุขภาพ และผืนป่าเนื้อที่ 30 ไร่ ณ ใจกลางโครงการ รังสรรค์ 56% ของโครงการให้เป็นพื้นที่สีเขียว โดยพื้นที่ประมาณ 70% ก็ร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้

สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยอื่น ๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ก็ประกอบไปด้วย

– โครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ ซึ่งเป็นซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์แห่งแรกที่สร้างในประเทศไทย

– มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า ประกอบไปด้วยบ้านคลัสเตอร์โฮมเชื่อมต่อกัน ที่เปิดโอกาสให้คนต่างเจเนอเรชั่นของครอบครัวเดียวกันได้อาศัยอยู่ใกล้ชิดกัน ในบ้านคนละหลังอย่างเป็นส่วนตัว

– มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียม ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ที่คล้ายกันกับวิลล่า

– คอนโดมิเนียมแบรนด์ วิสซ์ดอม ที่ประกอบด้วยอาคารสูง 3 อาคาร ออกแบบให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนวัยเริ่มทำงาน คู่ชีวิตที่สร้างครอบครัวใหม่ และมีหนึ่งอาคารที่ออกแบบสำหรับคนรักสัตว์โดยเฉพาะ

– ดิ แอสเพน ทรี คอนโดมิเนียมและสกายวิลล่า ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การส่งมอบบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการดูแลผู้พักอาศัยอย่างครบวงจรตลอดชีวิต

– เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ คอนโดมิเนียมที่ออกแบบสำหรับคนที่ชื่นชอบอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ในเมือง ใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยโครงการมีทั้งหมด 122 ยูนิต ทุกยูนิตสามารถมองเห็นวิวป่าได้แบบพาโนรามา