ช้อปดีมีคืน ปี 2566 วางแผนให้ดีก่อนใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี

ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2566 ซื้อสินค้าแล้วอย่าลืมขอใบกำกับภาษีสำหรับผู้ต้องการร่วมโครงการช้อปดีมีคืน ปี 2566 เพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ คาดจะมีตัวเลขหมุนเวียนถึง 56,000 ล้านบาท

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2566 ว่า รัฐบาลเชื่อมั่นจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญถึงตัวเลขการจับจ่าย คาดจะมีตัวเลขหมุนเวียนถึง 56,000 ล้านบาท ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี ในการกระตุ้นยอดขาย และให้ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา สามารถหักลดหย่อนภาษีด้วยค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2566 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท

สามารถลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 30,000 บาท (จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบ กระดาษหรือใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 10,000 บาท (จะต้องมีใบกำกับ ภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น)

 มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2566 ไม่รวมสินค้าและบริการ ดังต่อไปนี้
(1) ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
(2) ค่าซื้อยาสูบ
(3) ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
(4) ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร
(5) ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
(6) ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
(7) ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
(8) ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
(9) ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาตามที่กำหนดในข้อ (1) เช่น ค่าสมาชิกต่าง ๆ
(10) ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดยต้องมีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีที่มีข้อความระบุชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ มาใช้ในการใช้สิทธิหักลดหย่อน

ต่อข้อสงสัยที่หากเป็นการซื้อขายที่มีสัญญาใช้บริการระยะยาว มีระยะเวลาสัญญาเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2566 นั้น ก็จะไม่สามารถนำค่าบริการส่วนที่ใช้บริการนอกช่วงเวลา มาหักลดหย่อนได้ รวมถึงกรณีชำระค่าบริการระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2566 แต่ได้ใช้บริการหลัง วันที่ 15 ก.พ. 2566 ก็จะไม่สามารถนำมาหักลดหย่อนได้เช่นกัน

นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดและดำเนินมาตรการต่าง ๆ มุ่งหวังให้เกิดการใช้จ่าย เพิ่มยอดขาย กระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศ เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพ โดยถือเป็นปีแรกที่ขยายให้นำค่าน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มาลดหย่อนภาษีได้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการเดินทางและการท่องเที่ยว ซึ่งโฆษกรัฐบาลขอประชาสัมพันธ์มาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 2566” เพื่อให้ประชาชนเช็กสิทธิ์ตามมาตรการ วางแผนการจับจ่ายซื้อของในช่วงเวลานี้ คำนึงถึงความคุ้มค่า และประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม RD CALL CENTER โทร. 1161

ที่มา workpointTODAY