วิตกราคาข้าวพุ่งสูงก่อให้เกิดเงินเฟ้อด้านอาหารในเอเชีย

หน่วยงานด้านอาหารของสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า ราคาข้าวพุ่งสูงที่สุดในรอบเกือบ 12 ปี หลังการแบนส่งออกข้าวของอินเดียและสภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้การผลิตและอุปทานข้าวลดลง

นายฉิงเฟิง จาง ผู้อำนวยการอาวุโสธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า “ราคาข้าวทั่วโลกค่อนข้างน่าเป็นห่วง สิ่งที่ชัดเจนที่สุดในตอนนี้คือราคาอาหารจะยังคงผันผวนต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า”

นอกเหนือจากอินเดียแล้ว เงินเฟ้อด้านอาหารของประเทศอื่น ๆ ในเอเชียอยู่ในระดับที่ค่อนข้างควบคุมได้

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่าง ๆ ที่มาบรรจบกันกำลังก่อให้เกิดความวิตกว่า การขาดแคลนข้าวอาจทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาหารอื่น ๆ ในเอเชียกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง หนึ่งในนั้นคือ สภาพภูมิอากาศที่รุนแรงจากภาวะโลกรวน ประกอบกับปรากฏการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดปี และการถอนตัวของรัสเซียจากโครงการส่งออกธัญพืชผ่านเส้นทางทะเลดำ

บริษัทโนมูระกล่าวว่า ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เศรษฐกิจของเอเชียแปซิฟิกมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับราคาอาหารทั่วโลกที่สูงขึ้น แม้ว่าจะยังไม่มีผลกระทบอย่างเต็มที่กับตัวเลขเงินเฟ้อจนกว่าจะถึงหลายเดือนข้างหน้า

โนมูระมองว่า ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่เปราะบางที่สุดที่ราคาอาหารจะพุ่งทะยานขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อจากอาหารของผู้บริโภคมีสัดส่วนที่สูงถึง 34.8% โดยข้าวเพียงอย่างเดียวคิดเป็นสัดส่วน 8.9% ของทั้งหมด ขณะที่ผู้สังเกตการณ์ตลาดต่างกำลังเฝ้าจับตาดูอาหารบางประเภท

สภาพความแห้งแล้งอันเกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเอเชียปลายปีนี้ จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าว โดยไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับสองของโลก กำลังสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชน้อยลงเพื่อประหยัดน้ำ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์