ปรัชญาความคิดท่านประธานอาวุโสที่มีคุณค่านำไปปรับใช้ในชีวิตและการทำงาน

ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ถือเป็นบุคคลที่วงการธุรกิจยกย่องให้ท่านเป็นไอดอลของคนทำงาน คนทำธุรกิจจำนวนมาก เนื่องจากท่านมีแนวคิด วิธีคิดที่นำไปสู่ความสำเร็จในการทำงานและการดำเนินธุรกิจ ถึงกับมีการนำแนวคิดท่านประธานอาวุโสมาแบ่งปันกันอยู่อย่างต่อเนื่อง wearecp.comขอนำข้อคิดดีๆมาแบ่งปันชาวซีพี

1.สิ่งสำคัญที่ท่านประธานอาวุโส มักจะตอกย้ำกับผู้บริหารและพนักงานอยู่เสมอ
นั่นก็คือ “ตลาดทั่วโลก วัตถุดิบทั่วโลก คนเก่งทั่วโลก การเงินทั่วโลกล้วนเป็นของซี.พี.” ซึ่งเป็นความคิดที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงวิสัยทัศน์ที่มีความกว้างไกลซึ่งได้นำพาให้เติบโตเป็นปึกแผ่น และยังถือเป็นบริษัทคนไทยที่ประสบความสำเร็จต่อการลงทุนในต่างประเทศ ได้สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทยอีกด้วย

2.ในการทำธุรกิจผู้คนส่วนใหญ่จะคิดเรื่องกำไรต้องมาก่อน
แต่ท่านประธานอาวุโสจะมองในเรื่องของการทำงานเป็นหลักไม่ได้คิดเรื่องผลกำไรในแง่ที่ว่าทำธุรกิจนี้แล้วจะต้องได้กำไรเท่าไร ท่านประธานอาวุโสคิดแต่เพียงว่าทำธุรกิจนี้แล้วลำดับแรกจะมีโอกาสสำเร็จหรือไม่ พูดง่าย ๆ ว่าอย่าโฟกัสไปที่เงินให้โฟกัสไปที่ความสำเร็จนั่นเอง

3.หากจะทำธุรกิจประเภทธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจนั้นจะต้องไปเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมากด้วย
ไม่ใช่ไปเกี่ยวข้องกับคนจำนวนน้อย ซึ่งจะถือว่าธุรกิจนั้นเล็ก ถ้าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประเทศก็ยังถือว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ใหญ่ ถ้าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่จะต้องเกี่ยวข้องกับทั่วโลก สินค้าต้องขายได้ทั่วโลกมันถึงจะมีโอกาสใหญ่ และเป็นธุรกิจที่ต้องลงทุนได้ทั่วโลกธุรกิจนี้ถึงจะมีโอกาสใหญ่นั่นเอง

4.คำถามสำคัญที่คิดถึงผู้อื่นก่อน
นั้นจะช่วยให้ก่อเกิดความยิ่งใหญ่ในธุรกิจนั่นก็คือ สิ่งที่คุณทำนั้นเป็นประโยชน์แก่ประชาชนไหม? ถ้าคำตอบคือ ไม่ ธุรกิจที่คุณทำก็ไม่มีความยิ่งใหญ่

5.“ทำอะไรอย่าไปคิดในทางสำเร็จอย่างเดียว
ต้องคิดว่ามีปัญหาอะไรที่จะตามมาอีก มีหวานก็ต้องมีขม หรือได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง หลักคิดง่าย ๆ เลย ถ้างานยิ่งใหญ่ ปัญหาก็ยิ่งมีมาก” ซึ่งเป็นความจริงที่นักธุรกิจควรตระหนัก

6.เมื่อได้รับความสำเร็จ ผมอาจจะดีใจแค่วันเดียว เพราะยิ่งรับงานใหญ่ ภาระของเราก็ยิ่งมากขึ้น
ด้วยความคิดเช่นนี้ จึงทำให้ธุรกิจของซีพีสามารถปรับตัวได้เร็ว และพร้อมที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงทำให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

7.เน้นสร้าง “คน” เพื่อรองรับการเติบโต
ซึ่งถือเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญที่สุดประการหนึ่ง การให้ความสำคัญกับการสร้างคน และมีนโยบายให้ผู้นำกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ต่างก็เร่งดำเนินการสร้างและพัฒนาคนเก่งเพื่อรองรับการเติบโตบนเวทีการค้าโลก ซึ่งหากไม่มีคนเก่ง ก็ไม่สามารถชนะในตลาดโลกได้

8.การที่จะก้าวสู่การเป็นผู้บริหารระดับสูงจะต้องรู้จักใช้กลยุทธ์ในการสร้างคน
ซึ่งหนึ่งในวัฒนธรรมที่สำคัญก็คือต้องโปรโมทผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งจะต้องสร้างคนที่เก่งกว่าตัวเองขึ้นมา ในการสร้างคนนั้นอย่าไปแบ่งว่าใครเป็นคนของใคร เพราะผู้บริหารที่ดีนั้นจะต้องสร้างตัวแทนขึ้นมาให้ได้ โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงที่จะต้องรู้จักแสวงหาคนเก่งมาทดแทน และจะต้องเปิดโอกาสให้คนเก่งได้แสดงความสามารถ

9.เพราะชอบคนเก่งและอดที่จะเคารพนับถือคนเก่งไม่ได้
ทำให้ประธานอาวุโสยกย่องและนับถือคนที่สามารถสร้างตัวแทนขึ้น มาได้ ซึ่งผู้บริหารทุกคนจะต้องสร้างตัวแทน คนที่สามารถใช้คนเก่งได้อย่างมีทักษะ คือคนที่เก่งยิ่งกว่า ถ้าคุณสามารถสร้างคนเก่งได้ คุณคือคนที่เก่งที่สุด

10.เคล็ดลับ 3 ประการในการสร้างคนเก่ง
-อำนาจ เพราะคนเก่งจะต้องมีเวทีและมีอำนาจสำหรับใช้ในการแสดงความสามารถ
-มีเกียรติ เพราะนอกจากการแสดงความสามารถอย่างเต็มที่แล้ว คนเก่งเองก็ต้อง การได้รับการยอมรับ
-เงิน ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่จูงใจ จะเห็นได้ว่า “เงิน” ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญประการแรกในการสร้างคนตามสไตล์ความคิด เพราะสำหรับคนเก่งนั้นเงินไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดแต่ อำนาจ และเกียรติต้องมาก่อน ทำให้ มีบริษัทในเครือฯ มากถึง 200 กว่าแห่งทั่วโลก เพื่อเป็นเวทีสำหรับคนเก่ง

11.ต้องมองคนอื่นว่าเก่งกว่าเสมอและต้องไม่มองใครว่าเก่งสู้ตัวเองไม่ได้
รู้จักเปิดโอกาสและให้โอกาสพวกเขาได้แสดงความสามารถ เมื่อใครแสดงความสามารถออกมาก็จะต้องส่งเสริมสนับสนุนให้เขามีตำแหน่งสูงๆ ขึ้นไปอีกและจะต้องพยายามรักษาเขาให้อยู่กับบริษัทนานที่สุด อีกทั้งยังต้องสร้างคนที่มีความสามารถให้เกิดเพิ่มขึ้น

12.ในโลกแห่งการแข่งขันทางการค้าและการทำธุรกิจจะต้อง“รักษาคู่แข่งและไม่เอาเปรียบลูกค้าดูแลสังคม”
ซึ่งนักธุรกิจที่แท้จริง จะพยายามแข่งขันกันอยู่ในขอบเขต จะไม่แข่งกันจนพังไปข้างหนึ่ง หากมีความสามารถก็ไปหาธุรกิจที่อื่นไม่ต้องมาเจาะจงมาแย่งข้าวชามเดียวกันสุดท้ายสองคนสามคนก็ไม่อิ่มสักคน แล้วก็จะไม่มีประสิทธิภาพ
โดยวิธีการ คือ การถอนแล้วก็ไปหาตลาดใหม่ ที่ผ่านมาไม่เคยทำให้คู่แข่งล้มละลาย มีนโยบายรักษาคู่แข่ง ไม่ทำลายคู่แข่ง และยังต้องแบ่งตลาดให้ เพื่อให้คู่แข่งสามารถอยู่รอดในตลาดได้ เพราะถ้าเราทำลายคู่แข่งไป ก็อาจมีคู่แข่งใหม่เข้ามาอีกซึ่งอาจจะแข็งแกร่งกว่าก็เป็นได้

13.ให้มองถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก
รวมไปถึงคู่ค้าและซัพพลายเออร์ด้วยจะต้องให้พวกเขาอยู่ได้ ต้องไม่เอาเปรียบลูกค้าและต้องดูแลสังคม เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ถ้าสังคมอยู่ไม่ได้ เราก็อยู่ไม่ได้และให้ขายคุณภาพบวกความซื่อสัตย์ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ

14.ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจนั้น คิดว่าการทุ่มเทในการทำงานนั้นก็เพื่อสร้างธุรกิจให้เจริญก้าวหน้า
การได้สร้างงานและสร้างอาชีพให้แก่คนมากมาย สร้างรายได้มหาศาลเข้าประเทศ การเสียภาษีให้กับรัฐบาล มีความรับผิดชอบต่อสังคม การสร้างคนเก่งและที่สำคัญสร้างคนไทยให้ไปแข่งขันทางธุรกิจกับทั่วโลกเพื่อเป็นการพัฒนาคนให้ได้เหรียญทองทางธุรกิจ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ

15.เพื่อความมั่นคงในกิจการที่ตั้งขึ้นมานั้น มีการจ้างผู้บริหารที่มีความสามารถที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมาทำ
งานแบบกระจายศูนย์ เนื่องจากบริษัทต้องดำเนินได้ดีและต้องมีการบริหารที่ดีจะต้องรักและให้เกียรติผู้มาร่วมงานเสมือนครอบครัว ซึ่งแม้ว่าคนที่เก่งคนนั้นจะไม่ใช่ญาติแต่ถ้าหากมีความสามารถเข้าใจถึงวัฒนธรรมองค์กรก็มีสิทธิเป็นใหญ่ได้เสมอตามระบบอาวุโส
การเป็นนักบริหารหรือเจ้าของธุรกิจที่ดีนั้น นอกจากจะมีความอดทน ซื่อสัตย์ และความกล้าแล้ว ยังต้องใฝ่หาความรู้และเทคโนโลยีที่ดีกว่าเสมอๆ ต้องรู้จักคนและเลือกใช้คนด้วย พูดง่ายๆ ว่า “ใช้คนได้เหมาะกับงานและใช้งานได้เหมาะกับคน”

บิดาของท่านประธานอาวุโส มักบอกเสมอว่า “เราจะต้องมีความซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น ทำอะไรต้องทำให้ดี อย่าไปหลอกลวงลูกค้า”โดยเฉพาะเกษตรกรและไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ ให้ยึดถือความสำคัญของคำว่า “คุณภาพ” ต้องมาเป็นอันดับแรกและซื่อสัตย์ต่อลูกค้า และแนวคิดหลักปรัชญาที่นำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจคือ ต้องคิดถึงผู้อื่นก่อนเสมอ

ซึ่งก็คือประโยชน์ของประเทศชาติต้องมาก่อน ตามด้วยประโยชน์ประชาชน และบริษัทเป็นอันดับสุดท้ายคนเราต้องรู้จักให้ก่อน แล้วสิ่งดี ๆ ในชีวิตจะตามมาอย่างไม่คาดฝันจนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน