ธปท. จับมือ 14 หน่วยงาน พัฒนา 6 ฐานข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรไทย ร่วมกับ 14 หน่วยงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาฐานข้อมูลที่สามารถสะท้อนสถานะหนี้และศักยภาพทางเศรษฐกิจของครัวเรือนเกษตรกรจากการเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่สำคัญของประเทศ อันจะเป็นรากฐานสำคัญในการศึกษา และสร้างความเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาหนี้ของครัวเรือนเกษตรกรกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ในการให้ผู้กำหนดนโยบายและสถาบันการเงินสามารถนำไปใช้ออกแบบและผลักดันแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกรได้อย่างตรงจุดและยั่งยืนขึ้น

งานวิจัยของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ แสดงให้เห็นว่า ครัวเรือนเกษตรกรมีสถานะทางการเงินที่เปราะบางมากขึ้น เนื่องจากมีผลิตภาพต่ำและรายได้น้อย มีปัญหาสภาพคล่อง และการประกอบอาชีพต้องเผชิญกับความเสี่ยงสูง ปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้ครัวเรือนต้องพึ่งพิงสินเชื่อ และกำลังประสบปัญหาหนี้สินในวงกว้าง จากข้อมูลสำรวจเกษตรกรทั่วประเทศ พบว่า กว่า 90% ของครัวเรือนมีหนี้สิน โดยครัวเรือนเกษตรกรกว่าครึ่งมีภาระหนี้เกินกว่าศักยภาพในการชำระและมีหนี้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกปี และส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการชำระได้เพียงดอกเบี้ย นอกจากนี้ เกษตรกรกว่าครึ่งยังมีอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่ถดถอยและพฤติกรรมการชำระหนี้ที่อาจส่งผลให้ปัญหาหนี้ของครัวเรือนเกษตรกรกลายเป็นปัญหาหนี้ที่เรื้อรัง (persistent debt) ประกอบกับนโยบายช่วยเหลือของภาครัฐในปัจจุบันที่เน้นการช่วยเหลือในระยะสั้น ทำให้ไม่สามารถช่วยให้ครัวเรือนเกษตรกรสามารถหลุดพ้นจากปัญหาหนี้ได้ในระยะยาว

ธปท. และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ให้ร่วมกันผลักดันการสร้างรากฐานในการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรอย่างยั่งยืน จึงได้ร่วมมือกันผลักดันการพัฒนาฐานข้อมูลร่วมกันในครั้งนี้ เพื่อสะท้อนทั้งในมิติของหนี้สินรวมของครัวเรือน พฤติกรรมการชำระหนี้ และศักยภาพในการชำระหนี้ในระดับครัวเรือนเกษตรกร

โดยฐานข้อมูลครัวเรือนเกษตรกรที่จะนำมาเชื่อมโยงกันภายใต้ความร่วมมือนี้ ประกอบไปด้วย

  1. ฐานข้อมูลหนี้สินและทรัพย์สินของครัวเรือนจาก ธ.ก.ส. สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  2. ฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกร ปศุสัตว์ ประมง และความเสี่ยงจากภัยพิบัติ จากกรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และการยางแห่งประเทศไทย
  3. ฐานข้อมูลที่สะท้อนศักยภาพในการทำเกษตร เช่น การจดทะเบียนมาตรฐานสินค้าและการทำเกษตรอินทรีย์จากกรมการข้าว กรมวิชาการเกษตร และกรมพัฒนาที่ดิน
  4. ฐานข้อมูลที่สะท้อนโครงสร้างอาชีพ รายได้ และความยากจนในหลายมิติของเกษตรกรผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐจากสำนักงานปลัดการทรวงการคลัง
  5. ฐานข้อมูลรายได้และสวัสดิการจากกรมการพัฒนาชุมชน และ
  6. ฐานข้อมูลความเหมาะสมในการทำการเกษตรจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ โดย ธปท. จะทำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการข้อมูล และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะช่วยให้คำปรึกษาและสนับสนุนเพื่อให้การใช้ประโยชน์จากข้อมูลร่วมกัน ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลข้อมูลที่ดี และสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลที่ได้จากความร่วมมือครั้งนี้จะมีประโยชน์กับหน่วยงานผู้กำหนดนโยบายและสถาบันการเงินในการผลักดันแนวทางแก้ไขหนี้สินเกษตรกรอย่างเป็นองค์รวม อันจะนำมาซึ่งประโยชน์กลับไปสู่ครัวเรือนเกษตรกรในวงกว้าง ได้แก่

  1. การใช้ข้อมูลในการศึกษา ออกแบบและผลักดันแนวทางการแก้หนี้เดิมที่สามารถช่วยให้ครัวเรือนชำระหนี้ได้มากขึ้นและสามารถปลดหนี้ได้ในระยะยาว
  2. การใช้ข้อมูลในการออกแบบแนวทางการปล่อยหนี้ใหม่อย่างยั่งยืน ทั่วถึง ตอบโจทย์ และตามข้อมูลความเสี่ยงที่แท้จริงของครัวเรือน และ
  3. การใช้ข้อมูลในการออกแบบแนวทางการสร้างภูมิคุ้มกัน ความรู้ทางการเงิน และการผสานการแก้หนี้กับโครงการเพิ่มรายได้และศักยภาพของครัวเรือนเกษตรกร

    นอกจากนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นต้นแบบสำคัญของการสร้างความร่วมมือทางด้านข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ ในการเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินนโยบายสาธารณะอีกด้วย