นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมจัดมหกรรมลดราคาสินค้าต้อนรับปีใหม่ เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชน รวมทั้งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน โดยจะดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการเดิม “พาณิชย์สั่งลุย! ลดราคาสินค้า ลดค่าครองชีพ” ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ซึ่งได้มีการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมร่วมกับผู้ประกอบการ ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ไปแล้วกว่า 300 ราย
“การปรับลดราคาสินค้าครั้งนี้ จะถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่ง มีสินค้าเข้าร่วมทุกกลุ่ม ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้จำเป็น ปัจจัยเกษตร รวมถึงกลุ่มบริการ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เป็นของขวัญปีใหม่” อธิบดีกรมการค้าภายในระบุ
สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้า 18 หมวด ที่กรมการค้าภายในติดตามดูแล ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารสด อาหารกระป๋อง ข้าวสารบรรจุถุง ซอสปรุงรส น้ำมันพืช น้ำอัดลม นมและผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง อาหารสัตว์ เหล็ก ปูนซีเมนต์ กระดาษ ยา เวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ บริการผ่านห้างค้าปลีก-ส่ง นั้น พบว่าสินค้าหลายรายการราคาทรงตัว และบางรายการราคาลดลงตามการจัดโปรโมชั่นของห้างและร้านค้า
นายวัฒนศักย์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรสำคัญ เช่น ข้าวเปลือก ราคาสูงขึ้นตันละ 250-450 บาท โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 14,700 บาท สูงสุด 15,500 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 12,750 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 11,450 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,800 บาท มันสำปะหลัง กิโลกรัม (กก.) ละ 3.68 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 9.18 บาท ปาล์มน้ำมัน กก.ละ 6.20-6.70 บาท และน้ำมันปาล์ม ขวดละ 44.95 บาท
ขณะที่หมูเนื้อแดง ราคาทรงตัว กก.ละ 130 บาท ไก่น่องติดสะโพก กก.ละ 78.94 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.22 บาท ผักสด ราคาปรับขึ้นเล็กน้อย เพราะได้รับผลกระทบจากช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาล จากฝนตกหนักเป็นหนาวจัด ทำให้ผักเสียหายและผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง แต่ขณะนี้อากาศอุ่นขึ้น ผลผลิตได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว
ส่วนสินค้าน้ำตาลทราย ขณะนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โรงงานจัดส่งสินค้าเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจำหน่ายในห้างค้าส่ง-ค้าปลีก และร้านค้าปลีกรายย่อยเป็นไปตามปกติ และมีปริมาณเพียงพอ หลังจากที่ผู้บริโภคเลิกตื่นตระหนกแห่ซื้อกักตุน
อย่างไรก็ดี กรมการค้าภายใน ยังจะติดตามสถานการณ์ต่อไป หากผู้บริโภคพบเห็น หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อน้ำตาลทราย ขอให้แจ้งสายด่วน 1569 กรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และดำเนินการให้ทันที
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์