เดินเครื่องซอฟต์เพาวเวอร์มวยไทย ‘จีน-สวีเดน’ ชุดแรกบินเรียนมวยไทยที่ภูเก็ต

ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง มีนโยบายพัฒนาการกีฬาของประเทศอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการผลักดันกีฬามวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะประจำชาติของไทย ได้มีที่มีการจัดตั้งโครงการ “ซอฟต์เพาวเวอร์มวยไทย” ขึ้นมา เพื่อเผยแพร่ไปทั่วโลก โดยมี “บิ๊กเอ”ผศ. พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เป็นหัวเรือใหญ่ในการเดินหน้า “ซอฟต์เพาวเวอร์มวยไทย” นั้น

ล่าสุด “บิ๊กเอ”ผศ. พิมล ศรีวิกรม์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการซอฟต์เพาวเวอร์มวยไทย ได้มีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดัน “มวยไทย” ไปสู่เป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล ขณะนี้ คณะกรรมการฯ ได้มีการหารือกับทางกระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมการกงศุล ที่จะเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่สนใจมาเรียนมวยไทยและพำนักที่ประเทศไทยให้ได้นานที่สุด เพื่อที่จะได้เรียนมวยไทยให้ครบหลักสูตร โดยกรมการกงศุล ได้มีการออกวีซ่าพิเศษ 90 วัน (Visa Non ED) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในกลุ่มเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้วตอนนี้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มแรก ที่จะเดินทางมาเรียนมวยไทย ที่ค่ายสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต และทางค่ายสะพานหิน ก็ได้มีการยื่นขอออกวีซ่าพิเศษ 90 วัน (Visa Non ED) โดยทางนายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ “ซอฟต์เพาวเวอร์มวยไทย” แจ้งว่า สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. ได้ติดต่อประสานงานกับทางกรมการกงศุล และได้รับอนุญาตเรียบร้อยแล้ว โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มแรก จะเดินทางมาระหว่างวันที่ 23-24 เเมษายน รวมทั้งสิ้น 11 คน แบ่งเป็นชาวจีน 10 คน และชาวสวีเดน 1 คน

“นักท่องเที่ยวทั้ง 11 คน ถือว่าเป็นชุดแรก ที่มีการออกวีซ่าพิเศษ 90 วัน (Visa Non ED) และจะมีการเปิดยาวให้กับทุกค่ายมวย ที่เข้าร่วมโครงการดับเรา เพื่อดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเรียนมวยไทยกับค่ายต่างๆ ให้มากที่สุด ซึ่งเราจะมีการประชาสัมพันธ์ไปยังค่ายมวยว่าเรามีการออกวีซ่าในลักษระนี้ให้ รวมทั้งจะเผยแพร่ไปยังสถานทูตและสื่อต่างๆ ด้วย เพื่อให้ค่ายมวยจากต่างชาติ หรือผู้ที่สนใจ ส่งนักมวยมาเรียนมวยไทยที่ประเทศไทยให้มากที่สุด” บิ๊กเอ ระบุ

ผศ.พิมล กล่าวต่อว่า เมื่อเรานับหนึ่งแล้ว ตนเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จะตามเข้าเรียนมวยไทยอีกเยอะเลยทีเดียว เพราะข่าวเริ่มกระขายออกไป เพราะการมาเรียนมวยไทย ในกลุ่ม 90 วัน มีประโยชน์ คือ 1.มาเรียนมวยไทยและได้มาท่องเที่ยวด้วย นักท่องเที่ยวส่วนมากจะจองเรียนมวยไทย 1 คอร์ส เรียนที่ภูเก็ตแล้ว ก็จะขยับไปเรียนที่กระบี่ หรือเชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆ ต่อไป ซึ่งตรงนี้เราไม่ได้มีปัญหาเลย ถือว่าเขาได้มาเรียนมวยไทย ตามพื้นที่ต่างๆ ตามค่ายต่างๆ ทำให้เกิดรายได้ขึ้น และ 2.เป็นนักมวยในค่ายต่างประเทศแล้วอยากมาต่อยมวยที่เวทีในไทย ซึ่งใน 90 วันนี้ เขาสามารถต่อยได้ถึง 3 ครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นการสร้างนักมวย ทั้งชาวต่างชาติที่เป็นนักมวย และชาวไทยเองที่จะต้องไปทำงานเป็นครูสอนมวยในต่างประเทศก็จะสามารถทำเป็นอาชีพได้ด้วย

“การขอวีซ่าพิเศษ 90 วัน หากหมดอายุแล้วสามารถต่อได้อีก 3 ครั้ง โดยยื่นเรื่องมาที่สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย จากนั้นเราจะติดต่อไปยังกรมการกงศุล ในการต่ออายุให้ ซึ่งจะเท่ากับว่าเขาจะได้เรียนมวยไทยถึง 1 ปี เลยทีเดียว เรียกว่าเรียนได้สมบูรณ์ครบหลักสูตร และสมมติว่าเขาได้เซ็นสัญญากับค่ายมวย ทางเราก็จะดำเนินการติดต่อกับกรมการกงศุล ต่ออายุให้เขาอีก ซึ่งจะมีเวิร์คเพอร์มิต ทำงานในเมืองไทย เหมือนนักฟุตบอลอาชีพ” บิ๊กเอ กล่าวย้ำ

ที่มา มติชน