ภูมิคุ้มกันทางใจ “วัคซีนใจ ใช้ธรรมะบำบัดจิต ทำชีวิตให้เป็นสุข”

CPF Training Center ร่วมกับ ศูนย์บริหารจัดการ COVID-19 จัดเสวนา Special Talk ในหัวข้อ “ภูมิคุ้มกันทางใจ” Episode 1 : วัคซีนใจ ใช้ธรรมะบำบัดจิต ทำชีวิตให้เป็นสุข ให้แก่พนักงาน CPF ผ่านระบบออนไลน์ โดยมี พระเมธีวชิโรดม หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพระสิงห์ จ.เชียงราย และโค้ชเจี๊ยบ คุณอังคณาลักษณ์ จงจิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพลินพลัสคอนซัลติ้ง จำกัด มาร่วมเสวนาในครั้งนี้
ท่าน ว.วชิรเมธี ได้มอบคาถากันน้ำตาไหล ได้แก่ 1. ไม่แน่ 2. ไม่ได้ดั่งใจ 3. ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ดังนี้
1.ไม่แน่ คือ ‘อนิจจัง’ เป็นกฎของจักรวาล เราสามารถผ่านพ้นทุกสถานการณ์ได้เมื่อเข้าใจความไม่แน่นอน ประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลง จะมีการถ่ายเทปรับปรุงในคุณภาพ แต่คนมักมองการเปลี่ยนแปลงในแง่ลบ เมื่อทุกสิ่งไม่อยู่นิ่ง จึงต้องเข้าใจว่าหลายๆ อย่าง ไม่นิ่งเช่นกัน เช่น ชื่อเสียงที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ดังนั้น คนที่ปรับตัวได้ดีที่สุดคือ คนที่อยู่รอดได้ดีที่สุด ความทุกข์เกิดจากความคาดหวังและไม่เป็นไปตามหวัง คาถานี้จึงสอนให้ไม่ยึดมั่นถือมั่น
2. ไม่ได้ดั่งใจ คือ ‘ทุกขัง’ ทุกอย่างในโลกเป็นไปตาม Cause and Effect ถ้าเราพยายามให้ได้ดั่งใจเราจะทุกข์ ดังนั้น จงจำไว้ว่า ไม่มีใครได้ทุกอย่างดั่งใจหวัง และไม่มีใครพลาดหวังทุกอย่างไป
3. ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ หรือ ‘อนัตตา’ ทุกอย่างไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง แต่เป็นไปตามเงื่อนไข เช่น มือถือ iPhone เมื่อแกะออกในแต่ละชิ้น เราจะเรียกแต่ละชิ้นนั้นว่า iPhone หรือไม่ ดังนั้น ตัวเราจึงไม่ใช่เรา แต่เป็นเพียงแค่ Factor หนึ่ง เพราะฉะนั้นไม่มีใครสมบูรณ์ 100% ต้องเกิดจากองค์ประกอบต่างๆ มารวมกัน No one is perfect เมื่อเข้าใจข้อนี้เราจะให้อภัยตัวเองพร้อมกับให้อภัยผู้อื่น เราเป็นมนุษย์และยังมีกิเลส ปุถุชนก็พลาดกันได้ ดังนั้น เลิกตัดสินและโทษตัวเอง
ขณะเดียวกัน ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่หลายคนต้องเผชิญกับพลังลบรอบตัว ท่าน ว.วชิรเมธี ให้คำแนะนำเพื่อรับมือว่า เราจะเห็นในสิ่งที่เรามองหา เพราะฉะนั้นถ้ามีความคิดลบ จะดึงดูดสิ่งลบๆ ป้อนมาหาเรา เราต้องรู้เท่าทัน โดยหลีกเลี่ยงคนหรือแหล่งพลังงานทางลบ คบหาคนที่เป็นแหล่งพลังงานทางบวก จะได้มีแรงบันดาลใจ มีพลังสร้างสรรค์ นี่คือ การยกจิต ฟื้นจิตของเราไม่ให้คิดลบ มองลบ พูดลบ ทำลบ แล้วเราจะเป็นในสิ่งที่เรามองหา หากมองหาสิ่งดีๆ สิ่งดีๆ ก็จะตามมา ในแต่ละวันที่ลืมตาตื่น ควรป้อนพลังงานที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง และพูดคำเป็นมงคลที่สุดตั้งแต่คำแรกที่คุณพูด
ด้าน โค้ชเจี๊ยบ อังคณาลักษณ์ จงจิต ร่วมแชร์มุมมอง ช่วงวิกฤตโควิด-19 ว่า ไม่มีงาน อยู่บ้านในช่วง 3 เดือน ได้นำธรรมะ เรื่อง เข้าใจกฎธรรมชาติ “ไตรลักษณ์” มารับมือกับสถานการณ์ช่วงนี้ ว่า อย่าทุกข์ล่วงหน้า อย่าสร้างให้คนอื่นทุกข์ล่วงหน้าด้วย ข้อธรรมนี้ทำให้อยู่กับปัจจุบัน มีสติ และเข้าใจธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ทำให้เราดำรงอยู่ในทุกวันนี้อย่างเข้าใจว่าทุกอย่างมันไม่แน่ ไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรเลยที่สมบูรณ์แบบ
โค้ชเจี๊ยบ กล่าวเพิ่มเติมถึงการสร้างพลังกายและพลังใจให้แก่พนักงานว่า ต้องเข้าใจว่าเราคือ มนุษย์ธรรมดา มีขึ้นมีลงทั้งพลังกายพลังใจ แต่จะมีวิธี คือ ไม่โฟกัสผิดจุด เช่น เมื่อก่อนโฟกัสคนให้ความคิดเห็นไม่ดี 2 คน ทำให้จิดตกนานหลายปี จนลืมโฟกัสคนที่ชื่นชมเราอีก 20 คน นอกจากนี้ ยังทำกิจวัตรที่เพิ่มพลังบวกให้ตนเอง เช่น หลังจากตื่นนอนใช้เวลานั่งสมาธิ 15 นาที หรือบางวันทำท่ากอดตัวเอง โดยนำมือทาบอกหรือตรงกับหัวใจ ให้สัมผัสเสียง และหัวใจเต้น บอกรักตัวเอง ให้กำลังกับตัวเอง อยู่กับปัจจุบัน ใช้หัวใจในการทำ ขอบคุณสิ่งเล็กๆ รอบตัว เราจะไม่เป็นพลังลบ
“เคล็ดลับ หลัก 4 ข้อ คือ ทุกวันฟังเรื่องราวดีๆ เรื่องที่เป็นประโยชน์ เข้าหากัลยาณมิตร แต่ไม่ปิดกั้น ช่วยเหลือคนที่มีพลังลบแล้วต้องการให้เราช่วยเหลือ หลีกเลี่ยงตัวกระตุ้น พลังทางลบ หมั่นเจริญสติ รู้เนื้อ รู้ตัว” โค้ชเจี๊ยบ กล่าว
สำหรับหลักธรรมและแง่คิดต่างๆ ที่ได้รับในครั้งนี้ เป็นวัคซีนใจ นำธรรมะมาบำบัดจิต เพื่อให้ชีวิตเป็นสุข พร้อมเติมพลังบวกให้ชีวิต พัฒนาความคิดในช่วงสถานการณ์อันยากลำบากนี้
Cr.PR CPF