CPF ชูโมเดล ‘โรงงานแปรรูปไข่บ้านนา’ นำเปลือกไข่บดจากกระบวนการผลิต หนุนประโยชน์สู่ชุมชน

CPF เดินหน้าบริหารจัดการทรัพยากรเกิดประโยชน์สูงสุดตลอดกระบวนการผลิตควบคู่ดูแลสิ่งแวดล้อม ชูโมเดล โรงงานแปรรูปไข่บ้านนา จ.นครนายก นำเปลือกไข่บดที่เหลือจากกระบวนการผลิต แบ่งปันให้เกษตรกรในพื้นที่ทำปุ๋ย ช่วยลดต้นทุนทางการเกษตร สร้างความมั่นคงทางอาหารและเน้นผลผลิตอาหารปลอดภัย สอดรับเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กร ลดขยะและขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ใน ปี 2030 และเดินตามเป้าหมาย SDGs
คุณวรรณทนีย์​ ชำนาญเศรษฐการณ์​ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส CPF กล่าวว่า CPF ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรตลอดกระบวนการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการนำแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เดินตามเป้าหมายความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือเครือซีพี ลดขยะและขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ใน ปี 2030 (Zero Food Waste to Land Fill) โดยตั้งคณะทำงาน “สร้างคุณค่า ไร้ขยะ… Waste to Value” ขึ้น เพื่อบริหารจัดการด้านลดการสูญเสียอาหาร (Food Loss), ขยะอาหาร (Food Waste) และบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน (Sustainable Packaging) ขับเคลื่อนการดำเนินการภายใต้กรอบแนวปฏิบัติสากลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) : Food loss and waste protocol (FLW)
ภายใต้เป้าหมายดังกล่าว โรงงานแปรรูปไข่บ้านนา จ.นครนายก บริหารจัดการเปลือกไข่จากกระบวนการผลิต ปีละเฉลี่ย 1,000 ตัน โดยดำเนินโครงการ “ปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บด” ตั้งแต่ปี 2557 นำเปลือกไข่บดกระจายให้เกษรกรในพื้นที่นำไปทำปุ๋ยหมักหรือนำไปผสมเตรียมดินเพื่อใช้ปลูกต้นไม้ โรยที่โคนต้นไม้ นอกจากนี้ ยังร่วมกับสถานีพัฒนาที่ดินนครนายก อบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรทำปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อให้คนในชุมชนและเกษตรกรนำปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บดไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สามารถช่วยลดต้นทุนทางการเกษตร ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมี สร้างความมั่นคงทางอาหารในครัวเรือน และเป็นการส่งเสริมชุมชนบริโภคผลผลิตที่ปลอดภัย เป็นการสร้างประโยชน์สูงสุดในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ตัดวงจรการนำเปลือกไข่ไปทิ้งสู่หลุมฝังกลบ (Waste to Landfill) สร้างผลกระทบเชิงบวกสู่ชุมชนและสังคมโดยรอบและยังเป็นโครงการที่สอดรับตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals :SDGs) อาทิ ขจัดความอดอยากและสร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ส่งเสริมความยั่งยืนในระบบนิเวศบนบกและการสร้างความร่วมมือกับเครือข่าย เป็นต้น
ทั้งนี้ ในปี 2563 โรงงานฯ มีปริมาณเปลือกไข่จากกระบวนการผลิตทั้งหมด 1,302 ตัน จัดสรรให้เกษตรกร 65 % และอีก 35% นำไปใช้ปรับพื้นที่ในโรงงาน ขณะที่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค.-เม.ย.64) มีปริมาณเปลือกไข่ 520 ตัน ปัจจุบันมีเกษตรกรในพื้นที่ประมาณ 80 รายที่ได้รับประโยชน์ และมีการขยายสู่กลุ่มต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
“ภายใต้ปรัชญา 3 ประโยชน์ที่เครือ CP-CPF ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจ คำนึงถึงประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และมองประโยชน์ของบริษัทเป็นลำดับสุดท้าย CPF ปลูกฝังพนักงานมุ่งมั่นทำความดีและสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน ซึ่งโครงการปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บดเป็นอีกโครงการหนึ่ง ที่พวกเราดีใจที่ได้มีส่วนร่วมทำสิ่งดีๆ ให้กับชุมชน สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กร” คุณวรรณทนีย์ กล่าว
คุณวิลาวัลย์ เรียนเวช นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สถานีพัฒนาที่ดินนครนายก กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา โรงงานฯ มีโครงการ”ปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บด” ทางสถานีพัฒนาที่ดินนครนายก ได้ประสานกับโรงงานฯ เพื่อขอนำเปลือกไข่บดมาให้เกษตรกรใช้ประโยชน์โดยหมักเป็นปุ๋ย หรือบางรายก็นำเปลือกไข่บดไปเทใส่ในดินหรือโคนต้นไม้ ซึ่งเปลือกไข่บดมีคุณสมบัติช่วยให้โครงสร้างของดินดีขึ้น ทำให้ดินโปร่งขึ้น ส่งผลให้รากของพืชชนิดต่างๆสามารถชอนไชหาอาหารได้ดีขึ้น และยังช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารของพืชในดิน ทำให้ผลผลิตเติบโตได้ดี เกษตรกรมีผลผลิตเพิ่มขึ้น 10-15% ที่สำคัญเปลือกไข่บดช่วยลดต้นทุนของเกษตรกร ขอบคุณ CPF ที่นำเปลือกไข่ที่เหลือจากการผลิตมาเพิ่มทางเลือกในการปรับปรุงดินและเกิดประโยชน์กับเกษตรกร
ด้านเกษตรกรที่ใช้บริการรับเปลือกไข่จากโรงงานไปใช้ อย่าง คุณเกรียงไกร วงศ์ทวีวัฒนา อายุ 57 ปี เล่าว่า ได้รับคำแนะนำจากคุณครู รร.คลองโพธิ์ ซึ่งขอรับเปลือกไข่จากโรงงานของ CPF อยู่แล้ว จึงอยากจะนำมาทดลองกับผักและผลไม้ที่สวน โดยขอรับเปลือกไข่บดจากโรงงานมาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันที่เข้าไปรับเปลือกไข่บดมาครั้งละ 1 ตัน สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง นำมาผสมกับแกลบดำ ปุ๋ยคอก หญ้า ฟาง ใส่น้ำหมักและทิ้งไว้ 1-2 สัปดาห์ นำไปใส่โคนต้นไม้ สังเกตได้ว่า เปลือกไข่บดมีส่วนช่วยปรับปรุงสภาพดินให้มีความโปร่งขึ้น ผลผลิตเติบโตได้ดี ต้องขอขอบคุณในความเอื้อเฟื้อของ CPF ที่มีต่อเกษตรกรในพื้นที่ เป็นเรื่องที่ดีที่บริษัทฯ มีโครงการอย่างนี้ และอยากจะให้ช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป
Cr.PR CPF