CEO ซีพีเอฟ ร่วมเวทีเสวนา “โลกเปลี่ยน ธุรกิจปรับ รับวิถี New Normal” งานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ

CEO คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ร่วมเวทีเสวนา “โลกเปลี่ยน ธุรกิจปรับ รับวิถี New Normal” ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 38 : ไทยช่วยไทย คือ ไทยเท่ จัดโดย หอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ณ หอประชุมใหญ่ ม.หอการค้าไทย ดินแดง กทม.
การเสวนาในครั้งนี้ มีคุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี, คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน บ.กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ร่วมแชร์ประสบการณ์ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด แนวทางการปรับตัว และแนวโน้มในอนาคต โดยมี ผศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ดำเนินรายการ
CEO คุณประสิทธิ์ กล่าวถึง ภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารในไทยได้รับผลกระทบจากโควิดไม่มาก และเริ่มฟื้นตัว ซึ่งในส่วนของ CPF โควิดมีผลกระทบในระยะสั้น แต่ในระยะยาวช่วยทำให้ CPF บรรลุวิสัยทัศน์ของบริษัทได้ง่ายขึ้น ในการพัฒนานวัตกรรมอาหารเฉพาะกลุ่ม (functional food) เป็นตัวเร่งให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้กับกระบวนการทำงานในองค์กรมากขึ้นช่วยบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการแบบสตาร์ทอัพ ด้วยการรับนักศึกษาจบใหม่ 400 คน แบ่งเป็นทีมละ 8 คนทำหน้าที่ค้นหาปัญหาและจุดอ่อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย (Multi-channels) โดยบูรณาการระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด และออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่าง อาทิ ไก่เบญจา ที่เลี้ยงด้วยข้าวกล้อง หมูชีวา ที่เลี้ยงด้วยอาหารจากธรรมชาติอุดมด้วยโอเมก้า 3 เป็นต้น
CEO คุณประสิทธิ์ ยังได้สะท้อนมุมมองต่อทิศทางในอนาคตหลังสถานการณ์โควิดว่า มี 4 เรื่องหลักที่จะต้องเตรียมความพร้อม คือ ความรวดเร็วในการให้บริการและดูแลลูกค้า (Speed to customer) ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็ต้องสามารถรับความเสี่ยงได้ด้วย สอง การพัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่าง เพื่อรองรับพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เรื่องของสุขอนามัยเป็นประเด็นที่มาแรง ต้องมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม
อีกประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ คือ สิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) การเป็นองค์กรปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral) การลดปริมาณการสูญเสีย (Food Loss) และของเสียจากการเหลือทิ้ง (Food Waste) การใช้พลาสติก ซึ่งปัจจุบันบริษัทใช้พลาสติกที่ย่อยสลายได้ 99% การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ CPF ใช้พลังงานหมุนเวียนในสัดส่วน 25% ของการใช้พลังงานทั้งหมด รวมทั้งให้ความสำคัญกับเรื่องของสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) และการพัฒนาอาหารโปรตีนทางเลือก (Alternative Meat) ซึ่ง CPF เตรียมจะออกผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืชในปีหน้า และประการสุดท้าย คือการพัฒนาบุคลากร โดยรับคนรุ่นใหม่เข้ามาเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น ขณะเดียวกัน สร้างเวทีให้กับคนรุ่นเก่าเปิดโอกาสได้แสดงความสามารถ
Cr.CPF