ซีพีเอฟ เปิดกระบวนการผลิต ‘ไส้กรอกซีพี’ ปลอดภัย มาตรฐานระดับโลก

ซีพีเอฟ ย้ำกระบวนการผลิต ‘ไส้กรอกซีพี’ ได้มาตรฐานระดับสากล ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูง ตรวจสอบย้อนกลับได้ มั่นใจไส้กรอกซีพีทุกชิ้น สะอาด ปลอดภัย ใส่ใจผู้บริโภค

คุณเกริกพันธุ์ ดีประเสริฐ ผู้อำนวยการ ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ มุ่งมั่นผลิตไส้กรอกปลอดภัยควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่อง “คุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร” โดยกระบวนการผลิตใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มาตรฐานระดับโลก ตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต สร้างหลักประกันความปลอดภัย ส่งต่อสุขภาพที่ดีให้กับผู้บริโภค

“ไส้กรอกซีพี คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูง เนื้อไก่เป็นส่วนอกและเนื้อน่อง ปราศจากฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ส่วนเนื้อหมู คัดเนื้อชิ้นใหญ่แบบเต็มชิ้น ปราศจากสารเร่งเนื้อแดง จัดเก็บรักษาควบคุมอุณหภูมิอยู่ที่ 0-4 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ป้องกันและยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ก่อโรค และให้คงความสดตลอดการขนส่งจากฟาร์มถึงโรงงานผลิต สู่กระบวนการผลิตอัตโนมัติแบบต่อเนื่องตลอดสายการผลิต และมีการควบคุมอุณหภูมิในทุกขั้นตอน ให้อยู่ในระดับต่ำ 0-12 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาคุณภาพสินค้าให้คงสดใหม่และปลอดภัย ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย” คุณเกริกพันธุ์ กล่าว

ซีพีเอฟ ยังใช้เทคโนโลยีการเบิกจ่ายเนื้อสัตว์ด้วยระบบ Radio – Frequency Identification ที่สามารถระบุข้อมูลวัตถุดิบเนื้อสัตว์ รวมถึงจัดเรียงลำดับการใช้ก่อนหลัง และตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบตั้งแต่ต้นทางได้ เพื่อนำเนื้อสัตว์เข้าสู่ขั้นตอนตรวจจับโลหะก่อนนำเข้าเครื่องบด เป็นการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อน แม้เป็นเศษโลหะชิ้นเล็ก จากนั้นนำมาผสมกับเครื่องปรุงที่คัดสรรมาอย่างดีเพื่อขึ้นรูปอัดแท่ง และรมควันด้วย “ระบบรมควันแบบปิด” โดยนำเทคโนโลยีในการดักแยกสารทาร์ (TARs) ออกจากไส้กรอกมาใช้ (TARs เป็นสารหนักจากควันที่มีองค์ประกอบของสารก่อมะเร็ง) และตรวจสอบซ้ำในห้องแล็บ สร้างความมั่นใจว่าไม่มีสารตกค้างปลอดจากสารทาร์ 100%

นอกจากนี้ เข้าสู่กระบวนการทำให้ไส้กรอกสุกด้วยเครื่องอบไอน้ำ ที่อุณหภูมิใจกลาง 79 องศาเซลเซียส (อุณหภูมิใจกลาง คืออุณหภูมิจุดกึ่งกลางของชิ้นอาหารซึ่งเป็นจุดที่ร้อนช้าที่สุด) เพื่อให้มั่นใจว่าไส้กรอกจะสุกที่อุณหภูมินี้อย่างทั่วถึง จากนั้นนำไปผ่านน้ำเย็นและลมเย็น โดบลดอุณหภูมิให้เหลือ 0-4 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาอุณหภูมิที่ปลอดภัยต่อการบริโภค

“ไส้กรอกซีพี ไม่ใช้สารกันเสีย ไม่ใช้สารไนเตรต สารบอแรกซ์ ดินประสิว และส่วนผสมที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย รวมทั้งควบคุมการใส่ ‘เกลือไนไตรต์’ ให้อยู่ในปริมาณที่ต่ำกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย ก.สาธารณสุข อนุญาตให้ใช้เพื่อยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียที่สร้างสารพิษ เราตรวจสอบในห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานสากลอย่างเข้มงวด ตลอดจนควบคุมปริมาณโซเดียมให้อยู่ในเกณฑ์ตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค” คุณเกริกพันธุ์ กล่าว

สำหรับขั้นตอนการบรรจุไส้กรอกลงบรรจุภัณฑ์ เป็นระบบซีลสุญญากาศแนบกับชิ้นไส้กรอก ด้วยบรรจุภัณฑ์ชนิดเทอร์โมฟอร์มแบบฟิล์มหลายชั้น (Multi-layer thermoform film) ป้องกันการซึมผ่านของออกซิเจน ช่วยรักษาความสดใหม่และคุณภาพของไส้กรอกไว้ได้ตลอดอายุการเก็บรักษา โดยไม่ต้องใช้สารกันเสีย และอุ่นร้อนกับไมโครเวฟได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ก่อนส่งผลิตภัณฑ์ไส้กรอกสู่ผู้บริโภค ต้องผ่านขั้นตอนตรวจสอบคุณภาพของสินค้าและการตรวจจับโลหะอีกครั้ง

คุณเกริกพันธ์ แนะนำว่า การเลือกซื้อไส้กรอกอย่างปลอดภัย ผู้บริโภคควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่บรรจุภัณฑ์ปิดสนิทไม่ฉีกขาด มีฉลากระบุ วันผลิต วันหมดอายุ และสถานที่ผลิตอย่างชัดเจน สังเกตเครื่องหมายตราสัญลักษณ์ที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ เช่น เครื่องหมาย GMP GHP HACCP ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่บ่งชี้ว่าโรงงานผ่านการรับรองคุณภาพในการผลิตอาหารมีความปลอดภัย รวมถึงเลขสารบบอาหารและเครื่องหมาย อย.

ขั้นตอนที่สำคัญอีกข้อ คือ การเก็บรักษาหลังจากซื้อผลิตภัณฑ์ ควรเก็บรักษาในอุณหภูมิที่มีความเย็นตลอดเวลา ต่ำกว่า 6 องศาเซลเซียส หากยังไม่ได้ทานควรปิดให้มิดชิด ป้องกันการปนเปื้อนหรือใส่ภาชนะให้สนิทและเก็บในอุณหภูมิดังกล่าว ผลิตภัณฑ์ที่อุ่นร้อนแล้วควรทานในทันที เพื่อป้องกันจุลินทรีย์ก่อโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญกับสุขภาพของผู้บริโภคสูงสุดเป็นอันดับแรก เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

ที่มา PR CPF