ประธานอาวุโสเครือซีพี แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ “อนาคตของมหาวิทยาลัยกับการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจของชาติและภาคอีสาน”บนเวทีมทร.อีสาน 2564 “เหลียวหลังแลหน้า เพื่ออนาคตอีสาน”

ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน(มทร.อีสาน) เชิญบรรยายพิเศษเรื่อง “อนาคตของมหาวิทยาลัย กับการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจของชาติและของภาคอีสาน” ที่จัดขึ้นในโครงการ Retreat มทร.อีสาน 2564 : เหลียวหลังแลหน้า เพื่ออนาคตอีสาน” ระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน 2564 ณ โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ พัทยา โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัย มทร.อีสาน และประธานกรรมการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปนอ.มทร.) เป็นประธานกล่าวเปิดงานและบรรยายพิเศษในหัวข้อ “อนาคตของมหาวิทยาลัยไทย” ทั้งนี้ มีคณาจารย์และผู้บริหารมทร.อีสานเข้าร่วมสัมมนากว่า 200 คน

ในการนี้ ท่านประธานอาวุโสธนินท์ บรรยายผ่านระบบการประชุมออนไลน์จากกรุงเทพฯไปยังสถานที่จัดงาน โดยมีเนื้อหาสรุปว่า สถาบันการศึกษามีบทบาทสำคัญในการผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศ โดยเฉพาะในโลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปทุกด้าน สถาบันการศึกษาควรทำการศึกษาวิเคราะห์ความต้องการของตลาด เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ได้บุคลากรที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่แท้จริง เด็กที่จบออกมาแล้ว ต้องสามารถทำงานได้จริง จึงจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ

ท่านประธานอาวุโสเครือซีพีกล่าวว่า มหาวิทยาลัยต่างๆต้องปรับหลักสูตรการเรียนการสอนแบบออนไลน์มากขึ้น และดึงอาจารย์เก่งๆที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาสอนออนไลน์ เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาไทยได้เรียนรู้สิ่งใหม่และได้มาตรฐานสากล ซึ่งประเทศไทยควรมีการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา ให้เรียนจบปริญญาตรีตั้งแต่อายุ 18 ปี และให้เด็กรุ่นใหม่ได้ศึกษาเรียนรู้ไปพร้อมกับการทำงานจริง เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะจากการปฏิบัติจริง ไม่ใช่เรียนแต่ทฤษฎีเท่านั้น ซึ่งหลายประเทศ เช่น จีน และดูไบ ได้ทำสำเร็จแล้ว และมีการตั้งสตาร์ทอัพในมหาวิทยาลัย และให้นักศึกษาทดลองทำธุรกิจจริง ซึ่งเป็นการสร้างคนเก่งและมีส่วนช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ถึงเวลาที่นักธุรกิจต้องมาเป็นอาจารย์บ้าง และอาจารย์เองก็ควรไปลองทำธุรกิจ เพื่อเรียนรู้ของจริง มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งควรมีสตาร์ทอัพที่สามารถสร้างรายได้จากความคิดที่สดใหม่ของคนรุ่นใหม่”

“การเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจากผู้นำ เรื่องใหม่ต้องให้คนใหม่ทำ การสร้างคนต้องใช้วิธีใหม่ๆต้องทลายไซโล ถึงจะเปลี่ยนแปลงได้ เหมือนที่เครือซีพีได้พัฒนาสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเวทีให้เด็กรุ่นใหม่ได้ทดลองทำธุรกิจจริง ในรูปแบบสตาร์ทอัพ ต้องเรียนรู้ทุกอย่างและลงมือปฏิบัติจริง แบบไม่มีไซโล โดยมีผู้บริหารหรือคนรุ่นเก่าช่วยให้คำแนะนำและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆไปพร้อมกัน”ท่านประธานอาวุโสกล่าว

สำหรับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน หรือ มทร.อีสาน เป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีที่เปิดการเรียนการสอนในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น สกลนคร และสุรินทร์  ปัจจุบัน  ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย ดร.สรจักร เกษมสุวรรณ อุปนายกสภามหาวิทยาลัย  และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง รับผิดชอบในตำแหน่งอธิการบดี ปัจจุบัน มทร.อีสานครองแชมป์อันดับ 1 ในกลุ่มมหาวิทยาลัยราชมงคลของประเทศไทยติดต่อกัน 2 ปีซ้อนจากการจัดอันดับเว็บไซต์คุณภาพทางวิชาการทั่วโลก “Webometrics Ranking of World Universities” เมื่อเดือนม.ค.2564 ที่ผ่านมา

ผู้ช่วยศาสตราจารย์  ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง รับผิดชอบในตำแหน่งอธิการบดี อธิการบดี มทร.อีสาน กล่าวว่าโครงการ Retreat มทร.อีสาน 2564 : เหลียวหลังแลหน้า เพื่ออนาคตอีสาน” จัดขึ้นเพื่อศึกษาผลการดำเนินงานและผลกระทบจากยุทธศาสตร์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ พ.ศ.2565-2569 และศึกษาแนวทางการพัฒนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานในยุคต่อไป โดยโครงการ Retreat มทร.อีสาน 2564 โดยโครงการนี้จะมีการทั้งการศึกษาดูงาน และการบรรยายพิเศษจากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งนอกจากท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ แล้ว ยังมีผู้บรรยายอื่นอีกอาทิ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย ราชบัณฑิตและผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาลงกรณ์ ดร.กิตติพงศ์ พร้อมวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ(สอวช.)  เป็นต้น