CP Roundtable “ล้อมวงคิด ใกล้ชิดผู้นำ” ครั้งที่ 9 พบกับ คุณณัชชาชนก ณ ตะกั่วทุ่ง คุณมนัญญา ลิขิตธนวัฒน์ คุณเจนจิรา หมั่นผดุงกิจ และคุณณัฐกานต์ เอ่งฉ้วน 4 สาวผู้นำรุ่นใหม่ มาร่วมล้อมวงสนทนาในแนวคิด “ลูกวัวไม่กลัวเสือ” บอกเล่าประสบการณ์ผ่านการสร้างผู้นำและโครงการเถ้าแก่น้อย

23 ธันวาคม 2562 – สำนักกิจกรรมสื่อสารองค์กร และกองบรรณาธิการ We are CP เครือเจริญโภคภัณฑ์ จัดกิจกรรม ‘Roundtable ล้อมวงคิด ใกล้ชิดผู้นำ’ ครั้งที่ 9 โดย คุณณัชชาชนก ณ ตะกั่วทุ่ง คุณมนัญญา ลิขิตธนวัฒน์ คุณเจนจิรา หมั่นผดุงกิจ และคุณณัฐกานต์ เอ่งฉ้วน จากโครงการเถ้าแก่น้อย สถาบันพัฒนาผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์ มาชวนล้อมวงสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการสร้างผู้นำ ต่อยอดแนวคิด “ลูกวัวไม่กลัวเสือ” ผ่านโครงการเถ้าแก่น้อย ให้กับหนุ่มสาวชาวซีพีรุ่นใหม่ เพื่อจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำที่ดีในอนาคต ณ ห้องประชุม ชั้น 31 อาคาร AIA Capital Center ถนนรัชดาภิเษก

4 ผู้นำรุ่นใหม่ กล่าวในทิศทางเดียวกันว่าโครงการเถ้าแก่ให้บทเรียน ประสบการณ์การเป็นเถ้าแก่อย่างมากไม่เคยมีมาก่อน ได้เรียนรู้เรื่องธุรกิจ การจัดการธุรกิจด้านต่างๆที่เป็นของจริง ทำจริง

จากซ้ายไปขวา คุณณัชชาชนก ณ ตะกั่วทุ่ง , คุณมนัญญา ลิขิตธนวัฒน์ , คุณเจนจิรา หมั่นผดุงกิจ และ คุณณัฐกานต์ เอ่งฉ้วน

ทั้ง4ผู้นำรุ่นใหม่ยังกล่าวอีกว่า หากปัญหาเปรียบเหมือนเสือ ในฐานะที่เป็นลูกวัว จึงควรกล้าพูด กล้าคิด กล้าวิ่งชนปัญหาอย่างไม่กลัวเสือ แต่สิ่งที่แสดงความคิดเห็นออกไปจะต้องสร้างประโยชน์ต่อบริษัทและช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างชัดเจน โครงการเถ้าแก่น้อยถือเป็นการเรียนรู้จริง ทดลองจริง ปฏิบัติจริง เป็นแนวคิดของท่านประธานอาวุโสซึ่งหาไม่ได้จากตำราเรียนอย่างแน่นอน เราไม่ใช่แค่ลูกวัวแต่เปรียบได้กับตัวเชื่อมต่อกับผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ บุคลากรทุกๆ คนที่มีแนวคิดและอุดมการณ์เดียวกัน หน้าที่แท้จริง คือหาประสบการณ์และมุมมองใหม่ๆ ที่สามารถปรับจูนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่าให้เกิดความสมดุลกันอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งแรกที่จุดประกายให้เข้าร่วมโครงการนี้ คือ ความมุ่งมั่นและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เพื่อที่อยากจะสร้างสิ่งดีๆ และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดียิ่งขึ้นให้กับเครือฯไม่ใช่แค่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง

ดังนั้นส่วนประกอบที่ก่อให้เกิดผลสำเร็จจากโครงการนี้ ได้แก่ การมองปัญหาเป็นเหมือนอุปสรรคระหว่างทางที่ต้องเจอเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งการอดทน ทุ่มเท การอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ที่ช่วยมอบความรู้ ตักเตือนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำงาน เนื่องจากความเป็นเด็กรุ่นใหม่เรียนรู้เร็ว ทำงานเร็ว จึงเกิดความรอบคอบน้อย แต่ผู้ใหญ่จะคอยแนะนำคอยสอนจากประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมาถ่ายทอดสู่เด็กรุ่นใหม่ ผสานให้เกิดความพอดีที่ลงตัว กลายเป็นรวดเร็วและมีคุณภาพ ซึ่งความแตกต่างระหว่างวัยพบเจอได้ทุกองค์กร การเปิดใจยอมรับและเคารพซึ่งกันและกันจึงเป็นสิ่งที่ช่วยเปิดโอกาสในการเข้าใจและลดช่องว่างระหว่างความห่างได้ดีขึ้น

เรียกได้ว่าโครงการเถ้าแก้น้อยไม่เพียงแต่ให้บทเรียนด้านการดำเนินชีวิต บทเรียนธุรกิจ สิ่งสำคัญคือการได้รับโอกาสจากท่านประธานอาวุโสและผู้บริหารระดับสูงสุดทุกท่านในการช่วยอบรมบ่มเพาะความรู้และประสบการณ์สู่ทายาทเถ้าแก่รุ่นต่อๆ ไปอย่างไม่รู้จบ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด คือ การผนึกกำลังและการศรัทธาในตัวผู้นำอย่างท่านประธานอาวุโสถูกส่งต่อบอกเล่าภายในองค์กร ในปัจจุบัน ผ่านการมองเห็น เลียนแบบผู้บริหารและเหล่าเถ้าแก่ที่ได้ลงมือปฏิบัติจริงเพื่อจุดประกายการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

ทั้ง 4 ผู้นำรุ่นใหม่ต่างบอกว่าเป้าหมายของเถ้าแก่รุ่นใหม่ขณะนี้ คือการที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับทุกคนบนโลกด้านชีวิต สุขภาพ และอาหารที่ดี ดังนั้นบุคลากรหรือพนักงานทุกคนในเครือฯ จึงเหมือนจิ๊กซอว์ที่จะช่วยต่อภาพคนทั่วทั้งโลกให้เกิดการพัฒนาในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น จากการร่วมแรงร่วมใจของทุกคน เมื่อทำด้วยใจจะสามารถสะท้อนให้คนภายนอกมองเห็นคุณค่าของซีพีด้วยใจได้เช่นเดียวกัน และสิ่งที่ได้จากประธานอาวุโสคือการเป็นผู้นำจะต้องรู้จักให้อภัย เสียสละ รวมทั้งมีการเสียเปรียบในบางครั้งจึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้นำที่ดีและน่ายกย่องอย่างแท้จริง

ทั้ง 4 ผู้นำรุ่นใหม่ยังบอกว่าเดิมอาจมีหลายอย่างไม่เข้าใจเกี่ยวกับซีพีแต่จากการร่วมโครงการมีความเข้าใจซีพี มีความภูมิใจในซีพีที่เป็นองค์กรที่ทำประโยชน์ส่วนรวมและอยากให้คนซีพีภูมิใจเช่นกัน รวมทั้งเชื่อว่าคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นก่อนจะสามารถทำงานร่วมกันได้ เพราะทุกฝ่ายต่างปรับตัวและผนึกกำลังกัน

ติดตามรายละเอียดกิจกรรม ‘Roundtable ล้อมวงคิด ใกล้ชิดผู้นำ’ ครั้งต่อไปได้ที่ Facebook : we are cp และเว็บไซต์ wearecp.com