อะไรคือเคล็ดลับ “น้ำพริกคุณชาย” SME คนรุ่นใหม่ขายใน 7-Eleven พุ่ง 90,000 ชิ้นต่อเดือน ?

.
ในยุคที่สินค้าล้นกว่าความต้องการ คือ ไม่ว่าทำอะไรสินค้าไหน ๆ ก็ต้องมี ช่องทางการขายที่แข็งแกร่ง คือสิ่งที่จะทำให้มีโอกาสชนะในเกมส์ธุรกิจนั้นได้ช่องทางที่ทำให้เข้าถึงคนได้มากที่สุด อาจเป็นความฝัน “ก้าวใหญ่” ของผู้ประกอบการหลายคนซึ่งหนึ่งในนั้นก็น่าจะมีร้านสะดวกซื้ออย่างแน่นอน
วันนี้เราเลยขอมาศึกษาแบรนด์ “น้ำพริกคุณชาย” SME คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งมีโอกาสเข้ามาขาย และเติบโตแบบก้าวกระโดดใน 7-Eleven โดยเบนซ์-ภเดช กันตจินดา เจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่วัย 35 ปี เจเนอเรชั่นที่ 2 ได้เปิดเผยเคล็ดลับให้ฟังว่า
“น้ำพริกคุณชาย” ซึ่งเป็นแบรนด์ที่อยู่มาอย่างยาวนานกว่า 19 ปี โดยมี คุณรวีรัตน์ ลักษณวิสิษฐ์ เจ้าของนิตยาไก่ย่างเป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งปัจจุบันนี้ธุรกิจน้ำพริกคุณชายได้ถูกส่งไม้ต่อมายังรุ่นที่ 2 คือคุณเบนซ์ ภเดช กันตจินดา
.
เมื่อศึกษาสินค้าของตัวเองแล้ว เป็นสินค้าที่มีคู่แข่งเยอะ จุดที่จะช่วยได้เลยคือช่องทางจำหน่าย
โดยมีความตั้งใจว่า อยากจะพาแบรนด์และสินค้าน้ำพริกคลุกข้าวเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภครายย่อยให้มากกว่านี้ จึงเริ่มต้นวางแผนหาช่องทางตลาดโมเดิร์นเทรด ซึ่งชื่อแรกที่นึกถึงเลยคือ “7-Eleven”
.
ทีม 7-Eleven ได้ร่วมศึกษากว่า 6 เดือน ทั้งแบ่งปันให้เห็นถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ พร้อมทั้งมาตรฐานต่าง ๆ เพื่อสร้างความเป็นไปได้ในการขายให้ได้สำเร็จ เมื่อก่อนสินค้าที่ขายจะเป็นน้ำพริกที่บรรจุถุงแบบครึ่งกิโล แต่เมื่อจะนำสินค้าเข้าร้าน 7-Eleven เพื่อให้ได้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสู่ผู้บริโภค ก็ถูกแนะนำให้ปรับเปลี่ยนมาบรรจุแบบกระปุก 40 กรัมและซองซิปล็อค
.
โดยรสชาติแรกคือ น้ำพริกเห็ดกรอบขี้เมาเจ ที่เล็งจำหน่ายในช่วงเทศกาลเจ สร้างยอดผลิตสูงถึง 90,000 กระปุก ซึ่งลูกค้าก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดีเพราะ 7-Eleven เป็นร้านสะดวกซื้อที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่าย
.
ปัจจุบันบริษัทสามารถสร้างยอดการผลิตและจัดจำหน่ายต่อเดือนที่ 90,000 ชิ้น ทำยอดขายให้ในปี 2564 ได้กว่า 20 ล้านบาท และคาดว่ายอดจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
.
“ความน่าเชื่อถือ และวัตถุดิบที่ดี” คืออาวุธลับของการทำธุรกิจ
.
การทำธุรกิจ สิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้คือ “คู่แข่งทางการตลาด” เพราะตลาดน้ำพริกคลุกข้าวเป็นตลาดที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นสินค้าที่หาซื้อที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะตลาดสดหรือตลาดโมเดิร์นเทรด ซึ่งความต่างของสินค้าระหว่างน้ำพริกคุณชาย และคู่แข่งที่เห็นได้ชัดคือ ราคาไม่แพง ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ดีต่อสุขภาพ รวมทั้งยังมีรสสัมผัส และเนื้อสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร
.
เมื่อสินค้าเราโดดเด่น มารวมกับ “ความน่าเชื่อถือ” ที่ได้วางขายในร้านสะดวกซื้อที่มีมาตรฐาน และมีสาขาจำนวนมากทั่วประเทศไทย ซึ่งช่วยทำให้ลูกค้ามั่นใจได้มากขึ้น หรือพูดอีกนัยก็ได้ว่า ลูกค้าคุ้นกับสินค้าเรามากขึ้น ก็ทำให้ซื้อได้ง่ายขึ้น
.
ส่งต่อรายได้ให้แก่ชุมชน และเกษตรกร
.
เพราะ “อาหารที่ดีต้องมาจากวัตถุดิบชั้นเลิศเท่านั้น” ซึ่งวัตถุดิบทั้งหมดที่นำมาใช้ผลิตสินค้า ก็คัดสรรมาจากกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ปลาดุกอุยจากฟาร์มที่ จ.สุพรรณบุรี มะกรูดจาก จ.นครสวรรค์ ข่า-ตะไคร้-พริกสดจาก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นต้น คิดรวมแล้วเป็นจำนวนกว่า 20-25 ตันต่อปี เป็นรายได้ที่เกษตรกรได้รับประมาณ 10-12 ล้านบาทต่อปี ธุรกิจไปได้ดี ชุมชนและเกษตรกรก็มีรายได้ที่ดีไปด้วยกัน
.
จะเป็นฮีโร่ ก็ต้องมีผู้ช่วยอยู่เคียงข้างเสมอ
.
คุณเบนซ์ให้ความเห็นว่า ข้อมูลทางการตลาดเปรียบเสมือนอาวุธ ที่จะช่วยให้ต่อสู้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้ ซึ่งคุณเบนซ์ก็ได้รับคำแนะนำสำคัญ ๆ จากทีม 7-Eleven ในทุกด้าน ทำให้เหมือนมีผู้ช่วยที่คอยระวังหลัง ก็เป็นจุดดีอีกจุดที่ช่วยคนทำธุรกิจ
.
ในเป้าหมายต่อไป ที่จะไปให้ถึง คุณเบนซ์ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า จะพา “น้ำพริกคุณชายสู่ตลาดโลก” ให้ได้
.