ทรู แชร์องค์ความรู้ “การเปิดเผยข้อมูลสภาพภูมิอากาศที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจ” ในงานสัมมนา “Climate Related Disclosures and Implementation” จัดโดย ก.ล.ต. ร่วมกับรัฐบาลสหราชอาณาจักร และบริษัทอีวายฯ

16 มี.ค. 65 – สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จับมือรัฐบาลสหราชอาณาจักร และบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส จำกัด จัดงานสัมมนา “Climate Related Disclosures and Implementation” ผ่านทางออนไลน์ พร้อมเชิญกลุ่มทรู โดยดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน นำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมดิจิทัลควบคู่กับความยั่งยืน มาแบ่งปันมุมมอง ในหัวข้อ “การเปิดเผยข้อมูลสภาพภูมิอากาศที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจ” ผ่านประสบการณ์จริงและโครงการด้านความยั่งยืนต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “กลุ่มทรู ในฐานะ 1 ใน 16 องค์กรนำร่องของไทย ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้สนับสนุน Task Force on Climate-Related Financial Disclosure (TCFD) ได้นำแนวทางด้านความยั่งยืนมาวางแผน ประเมินความเสี่ยง พร้อมรับมือกับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวที่มีต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ปัญหาอุปกรณ์เครือข่ายเสียหาย จากภัยพิบัติน้ำท่วม หรืออุปกรณ์มีอายุการใช้งานสั้นลงด้วยอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ซึ่งล้วนส่งผลต่อต้นทุนทางธุรกิจ แต่อย่างไรก็ดี ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส ซึ่งในวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนี้ จะทำให้มีโอกาสสร้างความยั่งยืน จัดการกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อโลกได้ ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลจากผลกระทบของสภาพภูมิอากาศ นอกจากจะสะท้อนความโปร่งใสตามกรอบสากล TCFD และเป็นไปตามการกำกับดูแลกิจการที่ดีแล้ว ยังนำไปสู่ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ ตลอดจนเพิ่มโอกาสทางการค้า และขีดความสามารถทางการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งผู้บริโภค ต่างให้ความสำคัญกับการสนับสนุนสินค้าและบริการขององค์กรที่มุ่งเน้นด้านความยั่งยืนอีกด้วย”

กลุ่มทรู ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาร่วมขับเคลื่อนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การติดตั้งและใช้ไฟฟ้าจาก Solar Cell ที่ปัจจุบันมีอยู่ที่สถานีฐานและสถานีชุมสาย 3,481 แห่ง ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 12,570 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า การติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าได้ 11,900 MWh ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 5,500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ ยังร่วมกับพันธมิตรจัดหาและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด รวมถึงนำกลไกราคาคาร์บอนภายในองค์กร มาใช้ในการตัดสินใจเลือกโครงการที่จะลงทุน ซึ่งทั้งหมดนี้ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนของกลุ่มทรูในการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2573 ตอกย้ำผู้นำเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืน สะท้อนจากการที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ด้วยคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกในหมวดธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมถึง 4 ปีซ้อน (2018 – 2021)

ที่มา กลุ่มทรู