“ดร.อาชว์ เตาลานนท์” รองประธานอาวุโส เครือซีพีฯ อดีตประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาหอการค้าไทย ร่วมถ่ายทอดความภาคภูมิใจตลอดช่วงเวลาการเติบโตของหอการค้าไทย ผ่านประสบการณ์และเรื่องเล่าอดีต เพื่อขับเคลื่อนและการพัฒนาคน สร้างความเข้มแข็งให้ประเทศในอนาคต ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 – ดร.อาชว์ เตาลานนท์ รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ และ อดีตประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คนที่ 19 (พ.ศ. 2544 – 2547) ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตลอด 9 ทศวรรษ ผ่านมุมมองอดีตประธานหอการค้าไทยอาทิ คุณประมนต์ สุธีวงศ์ คุณพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล คุณอิสระ ว่องกุศลกิจ และคุณกลินท์ สารสิน ในหัวข้อ “แบ่งปันประสบการณ์หอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัด การขับเคลื่อนและการพัฒนา” ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 โดยมี คุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รับฟังความคิดเห็นเพื่อนำมาพัฒนาหอการค้าและ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือ YEC ซึ่งจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนต่อยอดองค์กรในอนาคต โดย ดร.อาชว์ เตาลานนท์ กล่าวแสดงความยินดีที่ตอนนี้หอการค้าจังหวัด-หอการค้าไทย มีความสามัคคี ทำงานเป็นปึกแผ่น ต่อเนื่อง และสามารถนำปัญหาต่าง ๆ เสนอให้รัฐเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั่วประเทศได้มาจนถึงปัจจุบัน


นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอแนะจากอดีตประธานหอการค้าจังหวัดต่าง ๆ ที่มาร่วมประชุมเพื่อเป็นแนวทางขับเคลื่อนขอการค้าไทย เชื่อมถึงรัฐบาลเพื่อพัฒนาในด้านต่าง ๆ


จากนั้นในช่วงค่ำเป็นการเสวนาประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หัวข้อ “90 ปีหอการค้าไทยจะก้าวต่อไปอย่างไร” โดย ดร.อาชว์ เตาลานนท์ ได้รับเกียรติเข้าร่วมเสวนา ร่วมกับ คุณประมนต์ สุธีวงศ์ คุณพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล คุณอิสระ ว่องกุศลกิจ และคุณกลินท์ สารสิน ดำเนินรายการโดย ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย



ดร.อาชว์ เตาลานนท์ กล่าวถึงความภาคภูมิใจและรู้สึกปลาบปลื้มที่ในช่วงเวลาหนึ่ง ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนหอการค้าไทย รวมถึงผลการดำเนินงานของท่านประธานกรรมการทุกท่าน ตลอดจนคณะกรรมการ และเพื่อนสมาชิก ที่ช่วยกันขับเคลื่อนงานของหอการค้าที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เหมือนกับกระแสน้ำที่ไหลอยู่ตลอดเวลา “ผมเป็นประธานหอการค้าเมื่อ 20 กว่าปีมาแล้ว ขณะนั้นหอการค้าไทยก็มีอายุ 70 ปี ก็ได้มีการจัดงานฉลองแต่ไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่ากับครั้งนี้ ขณะที่ผมดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าก็มีเหตุการณ์บ้านเมืองมีการเมืองต่าง ๆ มากมาย เท่าที่พอจำได้หอการค้ามีส่วนช่วยสนับสนุนสินค้า โดยได้พระมหากรุณาธิคุณจากในหลวง รัชกาลที่ 9 พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  ผลิตและจำหน่าย เสื้อคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง ของ บริษัท สุวรรณชาด จำกัด โดยใช้ประทับบนเสื้อยืดโปโลตราทองแดงเป็นชิ้นแรก ได้ผลิตและจัดจำหน่าย 350,000 ตัว และทูลเกล้าถวายเงินรายได้ 75 ล้านบาท”


ดร.อาชว์ ยังได้ผู้ริเริ่มงาน THAIFEX-Anuga Asia ขึ้นในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนการประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านอาหารของโลก โดยหอการค้าไทยเป็นผู้เจรจาให้มีการจัดงานนี้ขึ้นในประเทศไทย นอกจากนี้ในช่วงปลายของการดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าไทยฯ ได้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้มีส่วนร่วมใน โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ จากความร่วมมือของ 4 สถาบันภาคเอกชน ได้แก่ หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เพื่อแสดงพลังและความห่วงใยไปถึงพี่น้องชาวไทยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ตลอดจนเพื่อรวบรวมทุนไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยจากความไม่สงบ และ ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันเรื่องจรรยาบรรณทางธุรกิจให้เกิดขึ้น โดยมอบหมายให้ท่านดุสิต นนทะนาคร  นำมาสานต่อจนพัฒนาไปถึงเรื่องการต่อต้านคอรัปชั่นซึ่งก็ทำได้ดีมาถึงปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญทุกวันนี้งานของหอการค้าไทย ได้ขยายตัวมีความเจริญอย่างมาก หอการค้าทั่วประเทศหอการค้าจังหวัดนะ ได้รวมพลังความสามัคคีทำงานเป็นล่ำเป็นสันขึ้นนะครับก็เป็นสิ่งที่ดีสิ่งที่ผมอยากจะนึกถึงว่าในอนาคตธุรกิจเอกชน


“ ผมคิดว่าสิ่งสำคัญเรามีสมาชิกหอการค้า สมาชิกหอจังหวัด สมาชิกต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับจำนวนนักธุรกิจในบ้านเราซึ่งมีประมาณ 8-9 แสนราย เรายังจะต้องเพิ่มอีก ผมเห็นว่าหอการค้าเวลานี้ ได้นำปัญหาต่าง ๆจากภาคเอกชน นำไปสู่ภาครัฐให้ช่วยกันแก้ไข เป็นเรื่องที่ดี ภาคภูมิใจที่ท่านประธานสนั่นเป็นหัวและหัวแรงสำคัญ และอีกเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าหอการค้าไทยจะต้องทำก็คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ให้เขามีเชื่อมั่นต่อนักธุรกิจในบ้านเรา อยากให้เขามีความเห็นความสำคัญของธุรกิจ ซึ่งจะเป็นจักรกลสำคัญของเศรษฐกิจเป็นจักรกลสำคัญที่จะทำให้ประเทศเจริญ ประการสุดท้ายที่ผมอยากจะฝาก ปัจจุบันเรา มี YEC ซึ่งเป็นอนาคตเป็นคนรุ่นใหม่ และเรามีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผมอยากจะเสนอว่าอยากให้เปิด Chapter ของธุรกิจในมหาวิทยาลัยหอการค้า และหอการค้าจังหวัดต่าง ๆขึ้น เพื่อเป็นการบ่มเพาะนักธุรกิจรุ่นใหม่ในอนาคต เมื่อสักครู่ ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ ได้พูดถึงอนาคตของประเทศไทย จะมีความสดใส ดึงนักลงทุนเข้ามา มีการขยายตัวมาก ผมก็เห็นว่านี่คือหัวเลี้ยวหัวต่อของหอการค้าไทยนะครับที่เราจะเป็นกลไกขับเคลื่อนผลักดันให้ประเทศ เป็นส่วนที่สำคัญเคียงคู่กันไปกับทางภาครัฐครับ” ดร.อาชว์ กล่าวทิ้งท้าย